บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 7, 2023
สำหรับไขควงไฟฟ้าถือเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์อีกหนึ่งอย่างที่นี่คุณสมบัติในการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงงานหลายๆอย่างก็มักจะมีน็อตเป็นปัจจัยหลักซึ่งแน่นอนว่าไขควงหรือไขควงไฟฟ้านั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่ควรจะพกติดตัวอยู่เสมอสำหรับงานช่างต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม รวมถึงงานก่อสร้าง ซึ่งไขควงไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงลักษณะของไขควงไฟฟ้าแต่ละชนิดเองก็จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทนั้นๆ ของไขควงไฟฟ้า โดยในเนื้อหานี้จะเป็นการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของไขควงไฟฟ้ารวมถึงคุณสมบัติในแต่ละประเภทว่าแตกต่างกันอย่างไร
ประเภทของไขควงไฟฟ้า
ไขควงไฟฟ้ามีหลากหลายประเภทด้วยกัน สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมสำหรับงานต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานประปา งานก่อสร้าง งานซ่อมเกี่ยวกับยานยนต์รวมถึงงานอื่นๆอีกมากมาย ไขควงไฟฟ้าถือเป็นทางเลือกที่ดี ขึ้นอยู่กับหน้างานหรือชิ้นงานว่าควรเลือกใช้ไขควงไฟฟ้าแบบไหน
- ไขควงไฟฟ้ามีสาย (Corded Electric Screwdrivers) : แบบดั้งเดิมที่ต้องใช้เต้าเสียบ เพื่อให้พลังงานอย่างสม่ําเสมอแต่จํากัดด้วยความยาวของสาย หรือระยะในการทำงาน
- ไขควงไฟฟ้าไร้สาย (Cordless Electric Screwdrivers) : ไขควงไฟฟ้าชนิดนี้ใช้แบตเตอรี่ พกพาได้สะดวก มีกําลังไฟฟ้าต่างกันตามการจัดอันดับแรงดันไฟฟ้า
- ไขควงกระแทก (Impact Drivers) : ให้แรงหมุนกระแทกเพิ่มแรงบิด มีประโยชน์สําหรับขันสกรูใหญ่และถอดสกรูที่ติดแน่น
- ไขควงผนังเบา (Drywall Screwdrivers) : มีเครื่องจ่ายตะปูอัตโนมัติ สมบูรณ์แบบสําหรับติดตั้งผนังเบา อย่างเช่นยิปซั่มหรือไม้อัด
- ชุดไขควงไฟฟ้า (Electric Screwdriver Sets) : มาพร้อมอุปกรณ์เสริมหัวสกรูหลากหลายชนิดเพื่อขยายความสามารถในการใช้งาน
คุณสมบัติของไขควงไฟฟ้า
ไขควงไฟฟ้ามีคุณสมบัติที่น่าสนใจ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีความสะดวกสบายในการใช้งานรวมถึงสามารถพกพาได้ง่าย เมื่อเทียบกับการใช้ไขควงปกติทั่วไปการใช้งานของไฟฟ้าถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทุ่นแรงและเป็นอย่างดี โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นของไขควงไฟฟ้า จะมีดังนี้
- พลังงาน : ไขควงไฟฟ้าให้พลังงานมากกว่ารุ่นธรรมดา ทําให้งานขันสกรูง่ายและรวดเร็วขึ้น
- ความสะดวก : การทํางานอัตโนมัติของไขควงไฟฟ้าลดระยะเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างนี้ และช่วยให้มีความแม่นยํามากขึ้น โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้สกรูจํานวนมาก
- ปรับแรงบิดได้ : ไขควงไฟฟ้าหลายรุ่นมีการปรับแต่งแรงบิดได้ ทําให้คุณควบคุมปริมาณแรงที่ใช้ได้ บางรุ่นยังมีทิศทางการหมุนสลับไปมาได้ สําหรับงานขันและถอดสกรู
- การพกพา : สำหรับใครของไฟฟ้าถือเป็นเครื่องมือที่มีความสะดวกในการพกพา โดยเฉพาะรุ่นไร้สาย มีความสะดวกในการพกพา และบางรุ่นเล็กพอใส่กระเป๋าเสื้อได้
วิธีใช้ไขควงไฟฟ้า
การใช้ไขควงไฟฟ้าง่ายมาก แต่ทั้งนี้การใช้ไขของไฟฟ้าก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกันโดยรวมแล้วการแช่แข็งของไฟฟ้าจะมีรูปแบบการใช้งานที่เหมือนกัน แตกต่างกันที่การเลือกประเภทเท่านั้น โดยวิธีการใช้งานทั่วไปจะสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เลือกปลอกหัวขันที่เหมาะสม : เลือกปลอกหัวขันตามรูปร่างหัวสกรู ไขควงไฟฟ้าส่วนใหญ่มีปลอกหัวขันสลับเปลี่ยนได้
- ต่อปลอกหัวขัน : ใส่ปลอกหัวขัดลงในช่องจับของไขควงแล้วยึดให้แน่น
- ปรับแรงบิด : ถ้าไขควงของคุณปรับแรงบิดได้ ให้ตั้งค่าตามงานที่ทํา ค่าต่ําเหมาะสําหรับสกรูเล็กหรือวัสดุอ่อน ค่าสูงต้องใช้กับสกรูใหญ่หรือวัสดุแข็ง
- จัดวางสกรู : จับสกรูไว้ที่ตําแหน่งที่ต้องการ
- เริ่มขันสกรู : จับไขควงไฟฟ้าตั้งฉากกับพื้นผิวแล้วกดสวิตช์อย่างนุ่มนวลเพื่อขันสกรู อย่ากดแรงเกินไป ให้เครื่องมือทํางานเอง
- ชาร์จไฟหรือเสียบปลั๊ก : หากใช้รุ่นไร้สาย ต้องชาร์จแบตเตอรี่เมื่อจําเป็น หากใช้รุ่นที่มีสาย ต้องจํากัดพื้นที่ใช้งานตามความยาวของสาย
การใช้งานของไขควงไฟฟ้า
ไขควงไฟฟ้าเป็นเครื่องมือหลากหลายการใช้งาน โดยทั่วไปแล้วไขควงไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนหัวสำหรับคันในแต่ละงานได้ไม่ว่าจะเป็นหัวแบนหัวแฉก รวมถึงหัวเหลี่ยม ขึ้นอยู่กับหน้างานหรือชิ้นงานนั้นๆ โดยวิธีการใช้งานขององค์พระทั่วไปจะเหมาะกับงานหลายประเภท ดังนี้
- ปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน : ไขควงไฟฟ้าสมบูรณ์แบบสําหรับประกอบเฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งฮาร์ดแวร์ และงานซ่อมแซมบ้านอื่นๆ
- การก่อสร้าง : ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้บ่อยครั้งในการติดตั้งผนังเบา สร้างโครงสร้าง และอื่นๆ
- อิเล็กทรอนิกส์ : ไขควงไฟฟ้าขนาดเล็กแบบละเอียด ใช้ในการซ่อม หรือประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ยานยนต์ : ไขควงไฟฟ้าใช้ในการซ่อมบํารุงรถยนต์ โดยเฉพาะการถอดหรือขันสกรูและโบลท์
สรุปข้อมูลเกี่ยวกับ ไขควงไฟฟ้า
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้รับเหมามืออาชีพหรือนักช่าง DIY ไขควงไฟฟ้าสามารถทําให้งานของคุณง่ายขึ้นอย่างมาก มันไม่เพียงลดเวลาและความพยายามที่ต้องใช้ในการขันและถอดสกรู แต่ยังช่วยให้คุณทําโปรเจกต์ต่างๆ ให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย โดยการเข้าใจประเภทและการเข้าใจวิธีการใช้งานของไขควงไฟฟ้า คุณสามารถเลือกไขควงที่เหมาะสมกับงาน และใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่
เครื่องมือที่สามารถทํางานร่วมกับสว่านไฟฟ้า
1. ลูกบล็อก (Tool Sockets)
ลูกบล็อกเป็นอุปกรณ์เสริมที่สําคัญสําหรับสว่านไฟฟ้า ลูกบล็อกเหล่านี้มีหลายขนาดและใช้เพื่อยึดหรือคลายสกรูและโบลท์อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อติดตั้งลูกบล็อกขนาดที่เหมาะสม สว่านไฟฟ้าสามารถทำงานหลากหลายประเภทได้อย่างง่ายดายและแม่นยํา ศึกษาวิธีใช้ลูกบล็อกเพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับใช้ของสว่านไฟฟ้าที่ การใช้งานลูกบล็อก
2. ประแจปากตาย (Open-Ended Wrench)
ประแจปากตายเป็นเครื่องมือมือที่ใช้สําหรับขันแน่นหรือคลายน็อตและสลัก แม้จะใช้มือเป็นหลัก แต่ก็สามารถทํางานร่วมกับสว่านไฟฟ้าได้ โดยเฉพาะในเมื่อใช้สว่านไฟฟ้าแล้ว สามารถใช้ประแจสําหรับการขันแน่นหรือคลายในขั้นตอนสุดท้าย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่ประแจปากตายที่ ประโยชน์ประแจปากตาย
3. สว่านมือถือ (Cordless Drills)
สว่านไร้สายมีจุดประสงค์การใช้งานเช่นเดียวกับสว่านไฟฟ้า เป็นเครื่องมือจําเป็นสําหรับงานต่างๆ รอบบ้าน ช่วยในการเจาะรู สามารถติดตั้งหัวเจาะสกรูเพื่อใส่หรือถอดสกรูได้อีกด้วย การมีเครื่องมือทั้งสองชนิดช่วยให้มีความสามารถหลากหลายทั้งในงานเจาะและงานสกรู เรียนรู้ความแตกต่างของเครื่องสองชนิดนี้ได้ที่ สว่านมือถือคืออะไร
4. ชุดเครื่องมือช่าง (Handyman Tool Kits)
ชุดเครื่องมือช่างออกแบบมาให้มีเครื่องมือที่เสริมการทำงานของช่าง ดังนั้นจึงสามารถทํางานร่วมกับสว่านได้อย่างดี ช่วยอํานวยความสะดวกในโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ในการเตรียมชิ้นงานและเก็บรายละเอียด เมื่อใช้สว่าน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานของชุดเครื่องมือช่างได้ที่ การใช้งานชุดเครื่องมือช่าง
5. แท่นเจาะสว่าน (Drill Presses)
แท่นเจาะสว่าน แม้จะใช้สําหรับเจาะรูเป็นหลัก แต่ก็สามารถทํางานร่วมกับสว่านไฟฟ้าในโปรเจ็กต์ไม้หรือโลหะได้ หลังจากใช้แท่นเจาะสว่านเพื่อสร้างรูแล้ว สามาระใช้สว่านไฟฟ้ายึดส่วนประกอบเข้าด้วยกันเพื่อความแข็งแรงของชิ้นงานได้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แท่นเจาะสว่านได้ที่ เทคนิคการใช้แท่นเจาะสว่าน
โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon