บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ June 27, 2023

การเขียนแบบบ้าน เคล็ด (ไม่ลับ) กับการออกแบบยังไงให้อยู่สบาย

การเขียนแบบบ้าน ให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบ้านก็เปรียบเสมือนสถานที่พักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นที่ที่เราอยากอยู่แล้วรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด แต่ถ้าหากว่ากลับมาบ้านทีไรต้องมาคอยแก้ปัญหาจุกจิกกวนใจต่างๆ รวมทั้งต้องคอยมากำจัดสิ่งสกปรกเลอะเทอะ แทนที่วันหยุดสุดสัปดาห์จะได้มีโอกาสนอนเล่นอย่างสบายใจ แต่กลับต้องมานั่งเช็ดทำความสะอาด จัดระเบียบภายในบ้านตลอดทั้งวัน ดังนั้น หากเราสามารถออกแบบแปลนบ้านที่จะช่วยให้เราดูแลบ้านได้ง่ายๆ สบายๆ คงดีไม่น้อยใช่ไหม วันนี้เราจึงมี เคล็ด (ไม่ลับ) กับการออกแบบบ้านให้อยู่สบาย จากทีมสถาปนิกมาฝากกัน


1. จัดสวนแบบดูแลง่าย

จัดสวนแบบดูแลง่าย

การจัดสวนสวยย่อมเป็นที่ต้องการของบ้านทุกหลัง เพราะสวนจะช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่ ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ ยิ่งถ้ามีพื้นที่กว้างพอ และการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็จะสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ร่วมด้วย เพื่อเป็นร่มเงาให้กับบ้าน นอกจากจะได้ความสบายตา สบายใจ แล้วยังสบายกาย เนื่องจากบ้านของเราจะเย็นขึ้นในแบบที่สัมผัสได้ทันที และการเลือกปลูกต้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและสภาพดินของที่ดินจะช่วยให้สวนสวยงามและมีคุณค่าที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม การจัดสวนเจ้าของบ้านเองก็ควรต้องมีเวลาในการดูแลรักษา หมั่นรดน้ำพรวนดิน แต่หากว่าคุณเป็นคนมีเวลาไม่มากพอ ลองเปลี่ยนมาเน้นปลูกเป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ต้องดูแลมาก ต้องการน้ำน้อย อย่างเช่น ต้นจั๋ง, พวงชมพู, เข็ม, โกสน แทนก็ได้เช่นกัน


2. แยกโซนเปียก/แห้ง (ในห้องน้ำ)

แยกโซนเปียก/แห้ง (ในห้องน้ำ)

ในการออกแบบห้องน้ำ การแยกโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การใช้งานห้องน้ำมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งภารกิจในการทำความสะอาดที่ยิ่งใหญ่ของบ้าน คงไม่หนีพ้นการทำความสะอาดห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็น การขัดเคาน์เตอร์, อ่างล้างหน้า, ขัดพื้น บางครั้งต้องเสียเวลานานนับชั่วโมงกว่าจะทำความสะอาดได้หมด ยิ่งถ้ามาพิจารณาดูว่าสาเหตุที่ห้องน้ำสกปรกได้ง่ายนั้น เกิดมาจากความเปียกชื้น ทั้งยังสะสมก่อเป็นคราบที่ติดแน่น ทำให้ทำความสะอาดได้ยาก

ดังนั้น วิธีที่จะแก้ไขได้ คือ การแบ่งขอบเขตระหว่างพื้นที่เปียกชื้นกับพื้นแห้งเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน อย่างการติดตั้งตู้อาบน้ำหรือฉากกั้นเพื่อช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกมา การจัดทำผนังกั้นพื้นที่สำหรับการล้างมือ หรือบริเวณโถสุขภัณฑ์ ก็เป็นวิธีที่จะช่วยรักษาความสะอาด และเบาแรงไปได้เยอะ จึงควรพิจารณาแยกโซนเหล่านี้ให้เหมาะสมตามความต้องการและพื้นที่ที่มีอยู่ในห้องน้ำของเรา


3. วัสดุดูแลง่าย

การเขียนแบบบ้าน วัสดุดูแลง่าย

การสร้างบ้านควรเลือกวัสดุตกแต่งผิวในแต่ละส่วนของบ้าน นอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามแล้ว ต้องดูแลรักษาได้ง่าย ฉะนั้น จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

  • พื้นบ้าน บริเวณที่มักเกิดรอยเลอะเทอะ เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว เหมาะกับการปูกระเบื้องเซรามิกมากกว่าการใช้พื้นไม้ หรือพื้นปูนขัดมัน
  • ผนังห้องน้ำ ควรใช้เป็นวัสดุกระเบื้องโมเสกหรือเซรามิก เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้ง่าย
  • ผนังครัว (โดยเฉพาะส่วนปรุงอาหาร) แนะนำว่าควรเลือกวัสดุประเภทเซรามิก สแตนเลส เพราะจะได้ช่วยขัดถูคราบสกปรกได้ง่าย
  • ผนังกระจก หรือส่วนที่ใช้วัสดุกระจกรวมทั้งโดนน้ำบ่อยครั้ง ควรเคลือบสารเคลือบกระจก เพื่อจะช่วยลดการเกาะตัวของคราบน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดคราบสกปรก
  • ผนังภายนอกบ้าน ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศและภาวะสึกหรอ เช่น วัสดุกันฝุ่นหรือกันน้ำ ที่ง่ายต่อการดูแลรักษาและทนต่อการเกิดความเสียหายจากอุณหภูมิสูงหรือต่ำ
  • พื้นหน้าบ้าน ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนต่ออากาศและสภาพอากาศได้ดี เช่น วัสดุที่มีคุณสมบัติกันน้ำและกันซึม เพื่อป้องกันความชื้นซึมผ่านสู่ภายในบ้าน รวมถึงเลือกพื้นที่ช่วยกันลื่นได้ยิ่งดี
  • โซฟา กรณีที่มีงบมากพอแนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นวัสดุหนังแท้ สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าวัสดุที่เป็นผ้า ส่วนผ้านั้นไม่ใช่แค่ทำความสะอาดยากแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมของพวกฝุ่นไรอีกด้วย
  • ประตู หน้าต่าง หากต้องการวัสดุที่ดูแลง่ายก็ควรเลือกเป็นพวกอลูมิเนียม, ไวนิล จะดีกว่าใช้งานไม้

ในการเลือกวัสดุตกแต่งผิวทั้งภายในและภายนอกบ้าน ควรพิจารณาว่าวัสดุที่เลือกมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานหรือไม่ โดยเลือกวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้วัสดุด้วย โดยเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีและทนทาน เพื่อให้ไม่ต้องมีการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนบ่อยครั้ง ซึ่งสามารถประหยัดทรัพยากรและลดการสร้างขยะได้ และควรพิจารณาให้เข้ากับสไตล์ออกแบบทั้งภายในและภายนอกบ้าน ทั้งนี้ เพื่อให้ได้บ้านที่สวยงาม สะดวกสบาย และยั่งยืน


4. ใช้พื้นที่แนวตั้ง

การเขียนแบบบ้าน ใช้พื้นที่แนวตั้ง

การออกแบบใช้พื้นที่แนวตั้งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดีที่สุดจากพื้นที่ที่มีอยู่ในบ้าน กรณีที่บ้านของคุณมีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก ควรออกแบบให้ทุกๆ ห้องสามารถจัดเก็บของทุกอย่างในแนวตั้งได้ โดยสามารถใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์และสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากที่สุด โดยอาจจะใช้เป็นวิธี Built-in, ทำชั้นวางติดผนัง หรือทำเป็นตู้ลอยติดผนัง จะช่วยทำให้เราเก็บข้าวของได้เป็นระเบียบและประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังสามารถออกแบบใช้พื้นที่แนวตั้งในการสร้างบริเวณสำหรับการเก็บของในบ้าน อย่างการติดตั้งตู้เสื้อผ้าแนวตั้งหรือชั้นวางของแนวตั้ง เพื่อให้สามารถจัดเก็บได้อย่างประหยัดพื้นที่ อีกทั้งออกแบบพื้นที่แนวตั้ง เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับการใช้แสงธรรมชาติในบ้านได้ด้วย เช่น การติดตั้งหน้าต่างและประตูแนวตั้งให้มีขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงแดดและลมเข้าสู่บ้านได้อย่างเพียงพอ


5. วางตำแหน่งปลั๊กให้เพียงพอ

วางตำแหน่งปลั๊กให้เพียงพอ

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที ล้วนมีบทบาทที่สำคัญต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นบ้านไหนที่ออกแบบปลั๊กไฟไว้น้อย ก็ย่อมเจอปัญหาปลั๊กไม่เพียงพอต่อการใช้ต้องลากสายปลั๊กพ่วง ทำให้ดูรกสายตา แถมยังจะทำให้เกิดอันตราย ดังนั้น การออกแบบวางตำแหน่งปลั๊กในการออกแบบบ้านควรทำให้เพียงพอต่อตามความต้องการและความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย นอกจากจำนวนปลั๊กที่เพียงพอแล้ว ยังต้องพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งปลั๊กด้วย และสะดวกในการใช้งาน โดยพิจารณาถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในห้องนอนควรมีปลั๊กใกล้เตียงเพื่อสะดวกในการชาร์จอุปกรณ์ ในห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นควรมีปลั๊กใกล้กับที่นั่งเพื่อสะดวกในการใช้งานเครื่องเสียงหรือเครื่องเกม ในห้องครัวควรมีปลั๊กใกล้กับพื้นที่ทำอาหาร เพื่อสะดวกในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า

การออกแบบตำแหน่งปลั๊กไฟ โดยคิดตามหลักการใช้งานจริงจะช่วยไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ ส่วนมากแล้วบ้านหลายหลังมักลืมที่จะติดตั้งปลั๊กหลายแห่ง เช่น ห้องน้ำ, โรงจอดรถหรือหน้าบ้าน, หัวเตียงนอน, บริเวณสนามรอบบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ เราควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการติดตั้งปลั๊ก มีการตรวจสอบและสายไฟที่ใช้ควรมีคุณภาพดีและเป็นมาตรฐาน และหากเราต้องการติดตั้งปลั๊กในบริเวณที่มีความชื้นสูง อย่างในห้องน้ำหรือห้องครัว ควรเลือกใช้ปลั๊กที่มีการป้องกันน้ำและฝุ่น เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายในระหว่างการใช้งานด้วย


6. ผนังบ้านเรียบร้อย

การเขียนแบบบ้าน

ส่วนมากแล้วบ้านเกือบทุกหลังจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้เพื่อช่วยคลายความร้อน จึงควรมีการวางพื้นที่ในบ้านที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ โดยคำนึงถึงขนาดและรูปแบบของเครื่องปรับอากาศที่ต้องการติดตั้ง เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอและไม่กีดกันพื้นที่ในบ้าน และต้องจัดตำแหน่งเครื่องปรับอากาศให้มีการกระจายอากาศไปทั่วทุกพื้นที่ในห้องด้วย

เนื่องจากหลายๆ บ้านมักจะไม่ได้เตรียมพื้นที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มก่อสร้าง เมื่อช่างแอร์มาติดตั้งจึงต้องเจาะผนังภายใน วางท่อ หรือใช้วิธียึดเกาะคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ผนังด้านนอก ส่งผลให้ตัวบ้านทั้งภายในและภายนอกดูไม่สวยงาม ฉะนั้น ในการออกแบบบ้านควรออกแบบพื้นที่นี้เผื่อไว้ให้ด้วย


7. ขจัดซอกหลืบ

การเขียนแบบบ้าน

การออกแบบบ้านที่ไม่มีซอกหลืบเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้บ้านมีความสวยงามและทำความสะอาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงควรพิจารณาและตรวจสอบขอบเขต เพื่อขจัดซอกหลืบตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบและก่อสร้าง โดยเฉพาะซอกเล็กๆ ตามมุมบ้านเป็นอีกปัญหาที่ทำให้บ้านของเราดูรก ไม่สะอาดตา และยังดูแลรักษายาก หากเราออกแบบให้บ้านมีซอกหลืบลดน้อยลง บ้านของเราก็จะดูสะอาดตาขึ้น ซึ่งซอกหลืบต่างๆ ที่ควรต้องขจัด มีดังนี้

  • ซอกเหล็กดัด พยายามเลือกแบบที่ลวดลายน้อยที่สุด
  • ซอกตามตู้เสื้อผ้า ตามซอกเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี กำจัดได้ยาก ทางที่ดีควรออกแบบเป็น Built-in ชิดฝ้าเพดานแทน
  • ซอกใต้ในห้องน้ำ เช่น บริเวณอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ควรเลือกชุดสุขภัณฑ์ที่มีซอกน้อยๆ เน้นเป็นผิวเรียบตลอดทั้งชิ้น ซึ่งจะช่วยลดคราบสกปรก และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

จาก 7 ข้อข้างต้นจะเห็นว่าการออกแบบและตกแต่งบ้านมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้บ้านสะดวกต่อการใช้งาน แต่ละห้องมีการจัดเรียงและวางเครื่องใช้ได้อย่างเหมาะสม ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ลดภาระในการดูแลรักษาให้กับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยได้ ฉะนั้น ถ้าออกแบบและวางแผนไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีบ้านก็ยังคงสวยงามเหมือนเดิม และยังไม่ต้องการซ่อมหรือเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ด้วย


สร้างบ้านที่ไม่ตกเทรนด์ และ 5 แบบบ้าน Smart Home ที่ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น 

หัวข้อต่อไปนี้จะพูดถึงเรื่องของ แบบสร้างบ้านที่ไม่ตกเทรนด์ และเรื่องของ 5 แบบบ้านที่ใช้เทคโนโลยี Smart Home ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งบ้านแบบนี้จะมีความคงทนและต้องการความดูแลน้อยกว่าบ้านแบบสมัยใหม่

นอกจากนี้ การออกแบบบ้านแบบนี้จะมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการควบคุมและการจัดการสิ่งต่าง ๆ ในบ้าน ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานได้อีกด้วย แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามมาดูกัน


การออกแบบและสร้างบ้านที่ไม่ตกเทรนด์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

การออกแบบและสร้างบ้านในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนเรื่อย ๆ การสร้างบ้านต้องรู้จักก้าวทันตามกระแส เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ และยังสามารถออกแบบบ้านได้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตและสะดวกสบายต่อผู้อยู่อาศัย ดังนั้น เราจึงควรศึกษา แบบสร้างบ้านที่เป็นเทรนด์ในปัจจุบัน เพื่อนำมาปรับใช้ในการออกแบบบ้าน

1. Smart Home Smart Office – การสร้างบ้านกึ่งออฟฟิศ มีความสะดวกสบายและเหมาะสมสำหรับการทำธุรกิจเล็กๆ โดยมีจุดเด่นในการสร้างบ้านให้โปร่งโล่งและมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ และยังนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการควบคุมจัดการอุปกรณ์ต่างๆ อย่างอัจฉริยะ

2. Solitude – แบบบ้านที่เน้นความเงียบสงบและผ่อนคลาย โดยใช้วัสดุกันเสียงสำหรับผนัง หน้าต่าง พื้นผิว และเพดาน เพื่อลดเสียงรบกวน  และออกแบบบ้านให้ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด

3. Safe & Secure – บ้านในยุคปัจจุบันนี้สำคัญอย่างมากในการให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความสุขในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียว เพื่อเติมความสดชื่นและเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้มากขึ้น

4. Soaring สูงขึ้น – สไตล์แบบบ้านที่มีการออกแบบโครงสร้างที่สูงขึ้น เช่น เพดานสูง หรือช่องว่างข้างบน เพื่อให้บ้านดูกว้างขวางและมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น และเพื่อเพิ่มความสวยงามและความโดดเด่นให้กับบ้าน

5. Space Solutions – เน้นการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยใช้การจัดการพื้นที่อย่างฉลาดเพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ในบ้านได้อย่างเต็มที่

6. Semi-Party Semi-Living – พื้นที่ความสนุกและการพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการจัดปาร์ตี้ และมีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและการใช้ชีวิตประจำวัน


5 แบบบ้าน Smart Home ที่ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

การออกแบบบ้าน Smart Home ที่ดีและทันสมัยสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างมากมาย การออกแบบบ้านแบบนี้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น ทั้งยังสามารถควบคุมการใช้งานได้จากที่ไกลๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ลองมาดู 5 แบบบ้าน Smart Home ที่ก้าวสู่อนาคตที่แท้จริง และเติมเต็มให้บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ

1. Smart Home Energy – การใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองภายในบ้าน ช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้า ทำให้บ้านมีความทันสมัยมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายได้สบายๆ

2. Multifunctional Furniture – บ้านสมาร์ทโฮมต้องมีความทันสมัยทั้งภายในและภายนอก การเลือกเฟอร์นิเจอร์ล้ำสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้

3. Smart Garden – การใช้เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน สามารถปลูกผักได้ภายในและภายนอกบ้านด้วยเครื่อง Smart Garden ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม และปลอดสารเคมี 100%

4. Home Automation – ระบบควบคุมและจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือระบบต่างๆ ภายในบ้าน มีการพัฒนาให้มีความทันสมัย ดีไซน์สวยงาม และติดตั้งง่าย เป็นที่นิยมใช้ในบ้านแบบสมาร์ทโฮม

5. Smart Mirror – นวัตกรรมของกระจกอัจฉริยะ ซึ่งมีความสามารถในการบอกอุณหภูมิและข่าวสารต่างๆ หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่สำหรับการใช้งานส่องหน้าธรรมดาเพียงอย่างเดียว


การออกแบบและตกแต่งบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการสร้างบ้านที่สะดวกสบายและเหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัว ซึ่งการออกแบบบ้านที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาถึง ไลฟ์สไตล์ รูปแบบ และความสะดวกในการใช้งานของผู้อาศัย รวมถึงการจัดเก็บที่ดีเพื่อให้สิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ มีที่จัดเก็บอย่างเหมาะสม ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า นอกจากนี้ การออกแบบบ้านตามเทรนด์ หรืออยากสร้างบ้านใหม่ในรูปแบบสมาร์ทโฮมจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ได้บ้านที่สวยงาม ถูกใจ ใช้งานได้สะดวก และเหมาะสมสำหรับการใช้งานของคนในครอบครัว

Con Mueangsak

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save