บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ October 8, 2024

ในบทความนี้ เราขอแนะนำ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ 10 รุ่นยอดนิยม ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ละยี่ห้อได้รับการคัดสรรอย่างรอบคอบโดยพิจารณาจากเกณฑ์สำคัญ เช่น วัสดุที่ใช้ในการผลิต ความเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ และหน้ากว้างของแผ่นไม้ ปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญในการกำหนดความทนทาน ความสวยงาม และการใช้งานของพื้นไม้ สำหรับแต่ละยี่ห้อ เราได้จัดทำคำอธิบายสั้น ๆ ที่เน้นถึงประเด็นสำคัญเหล่านี้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ นอกจากนี้ เรายังได้สำรวจหัวข้อสนับสนุนที่สำคัญ 3 หัวข้อ ได้แก่ การทำความเข้าใจวัสดุที่ใช้ในพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ การเลือกพื้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับขนาดห้องที่แตกต่างกัน และความสำคัญของหน้ากว้างของแผ่นไม้ ส่วนเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณเข้าใจอย่างครบถ้วนถึงสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อต้องการเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ดีที่สุดสำหรับพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มความงามให้กับห้องขนาดเล็กหรือพื้นที่ขนาดใหญ่ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณค้นหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพื้นไม้ที่ตรงกับความต้องการของคุณ

ตารางสรุปพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ยี่ห้อแนะนำ

Leowood iWood รุ่น Walnut Oak 125

1-Leowood-iWood-รุ่น-Walnut-Oak-125

Leowood iWood รุ่น Walnut Oak 125 เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์คุณภาพสูงที่ผลิตจากไม้มะค่าแท้เกรด AAA ผิวหน้าของไม้มีความโดดเด่นด้วยความแข็งแรงและความสวยงาม ลวดลายไม้คมชัดเสมือนจริง พร้อมระบบป้องกันปลวกและมอดที่ผ่านการอัดน้ำยาทุกชั้นของเนื้อไม้ รับประกันการทนต่อปลวกและมอดนานถึง 5 ปี พื้นไม้รุ่นนี้มีขนาดหน้ากว้าง 198 ซม. และสามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ขนาด 2.87 ตร.ม. เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือห้องต่าง ๆ ตัวไม้แข็งแรง ทนต่อการขูดขีดและแรงกระแทก พร้อมผิวหน้าที่ไม่กักเก็บฝุ่น ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้มะค่า
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.87 ตร.ม.
หน้ากว้าง : 198 ซม.

Leowood iWood รุ่น Prestige

2-STANLEY-รุ่น-SSC22

Leowood iWood รุ่น Prestige เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผลิตจากผิวหน้าไม้โอ๊คขาว (White Oak) นำเข้าจากอเมริกา โดดเด่นด้วยความสวยงามและทนทาน พื้นไม้รุ่นนี้มีการเคลือบด้วยยูวีอะคริลิคแล็กเกอร์ 8 ชั้น ช่วยเพิ่มความเงางามและสามารถขัดทำสีใหม่ได้เมื่อมีรอยหลังการใช้งานหลายปี เหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้านทุกสไตล์ ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 2.7 ตารางเมตร และมีหน้ากว้าง 15 ซม. ตัวแผ่นไม้มีความแข็งแรง ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก ทำให้การปูพื้นเป็นเรื่องสะดวก ทั้งยังทนทานต่อการใช้งานยาวนาน

วัสดุที่ใช้ผลิต : ผิวหน้าเนื้อไม้โอ๊ค
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.7 ตารางเมตร
หน้ากว้าง : 15.00cm

THE BIG PLANK รุ่น EB01 White Oak

3-KEYANG-รุ่น-HC-14K

THE BIG PLANK รุ่น EB01 White Oak เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ผลิตจากไม้จริงที่มีความหนาพิเศษ โดดเด่นด้วยการรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยใช้ไม้จากฟาร์มปิดที่ปลูกเพื่อการผลิตโดยเฉพาะ พื้นไม้รุ่นนี้มีหน้ากว้าง 8 นิ้ว และครอบคลุมพื้นที่ 2.888 ตร.ม. พร้อมสี Callington Oak ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และเพิ่มความสวยงามให้กับห้องที่ติดตั้ง มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษในการกันปลวก ทนต่อสารเคมี กรด ด่าง และความชื้น ช่วยให้คุณมั่นใจในความทนทานและความปลอดภัยตามมาตรฐาน E0 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิต

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้จริง
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.888 ตรม.
หน้ากว้าง : 8 นิ้ว

A LA CARTE รุ่น E09

4-A-LA-CARTE-รุ่น-E09

A LA CARTE รุ่น E09 เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผลิตจากไม้บีชเนื้อแข็ง (Beech) ซึ่งมีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการใช้งาน มาพร้อมกับหน้ากว้าง 5 นิ้ว และครอบคลุมพื้นที่ 2.275 ตร.ม. ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่เคลือบสารกันปลวกและป้องกันความชื้น ช่วยยืดอายุการใช้งานของไม้ได้ยาวนาน ไม่บวม ไม่ยืดหรือหดตัว ตัวพื้นไม้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย E0 และยังทนทานต่อสารเคมี กรด ด่าง เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในบ้านหรืออาคารเพื่อสร้างบรรยากาศธรรมชาติ

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้ Beech เนื้อแข็ง
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.275 ตร.ม.
หน้ากว้าง : 5 นิ้ว

BUMRUNGTHAI Golden Thai Teak รุ่น SKU: 1175307

5-BUMRUNGTHAI-Golden-Thai-Teak

BUMRUNGTHAI รุ่น Golden Thai Teak เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผสานความงามแบบไทยโบราณเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ ผิวหน้าผลิตจากไม้สักแท้ที่เคลือบด้วยสียูวีอะคริลิกแล็กเกอร์ 8-11 ชั้น เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและเพิ่มความทนทาน มีโครงสร้างไม้อัดสลับเสี้ยนช่วยป้องกันการบิดโก่งและทนต่อแรงกดได้อย่างดี พื้นไม้รุ่นนี้ยังผ่านกระบวนการอบและอัดน้ำยากันปลวก จึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะสำหรับปูพื้นในบ้านหรืออาคาร

วัสดุที่ใช้ผลิต : ผิวไม้สักแท้ที่เคลือบสียูวีอะคริลิก
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.275 ตร.ม
หน้ากว้าง : 12.5 ซม.

THE BIG PLANK รุ่น EBP05 White Oak

6-THE-BIG-PLANK-รุ่น-EBP05-White-Oak

THE BIG PLANK รุ่น EBP05 White Oak เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อนำเสนอลวดลายและความงดงามของไม้โอ๊คอย่างเต็มที่ ด้วยสี B-Heritage Gray ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบายตา และเป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย พื้นไม้รุ่นนี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องความทนทาน กันปลวก 100% ไม่บวม ไม่หดตัว ทนต่อสารเคมีและความร้อน พร้อมผิว veneer หนาถึง 4 มม. เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในบ้านด้วยความสวยงามที่เป็นธรรมชาติ

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้โอ๊ค
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.888 ตรม.
หน้ากว้าง : 8 นิ้ว

A LA CARTE รุ่น E19-1 SB-Cofee

7-A-LA-CARTE-รุ่น-E19-1-SB-Cofee

A LA CARTE รุ่น E19-1 SB-Coffee เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผลิตจากไม้บีชเนื้อแข็ง มีลวดลายไม้สีเข้มสไตล์กาแฟดำ (SB-Coffee) ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราและโดดเด่นในทุกแผ่น ด้วยการเคลือบ UV Oil และการเพิ่ม Aluminium Oxide ทำให้พื้นไม้มีความทนทานสูง และลดการหลุดล่อนของหน้าไม้ได้ดี เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในบ้านหรืออาคาร ให้ความรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับงานศิลปะที่สะท้อนความงดงามของธรรมชาติ

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้ Beech เนื้อแข็ง
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.888 ตรม.
หน้ากว้าง : 5 นิ้ว

BUMRUNGTHAI Cloudy Oak รุ่น SKU: 1175423

8-BUMRUNGTHAI-Cloudy-Oak-รุ่น-SKU-1175423

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ BUMRUNGTHAI รุ่น Cloudy Oak (SKU: 1175423) ผลิตจากไม้โอ๊คแท้ คุณภาพสูง มาพร้อมลวดลายธรรมชาติและการเคลือบสียูวีอะคริลิกแล็กเกอร์ถึง 8-11 ชั้น ทำให้พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทก เหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้านหรืออาคารที่ต้องการบรรยากาศที่สวยงามและอบอุ่น สี Cloudy Oak โทนอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง สบายตา พร้อมคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการบิดโก่งและกันปลวก ให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจในระยะยาว

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้โอ๊ค เอ็นจิเนียร์
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 2.275 ตร.ม.
หน้ากว้าง : 12.5 ซม.

Naturwood Grey Oak รุ่น SKU 10102190

9-Naturwood-Grey-Oak-รุ่น-SKU-10102190

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ Naturwood Grey Oak รุ่น SKU 10102190 ผลิตจากไม้โอ๊คยุโรปเกรด A+++ ลายไม้สวยงามและมีความหนาพิเศษถึง 3 มม. โดดเด่นด้วยการเคลือบสียูวีอะคริลิกแล็กเกอร์ถึง 8 ชั้น เพื่อเพิ่มความทนทานและความทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย อัตราการพองตัวและบิดโก่งต่ำ เหมาะสำหรับการแต่งบ้านทุกสไตล์ ให้คุณมั่นใจในคุณภาพและความแข็งแรง ปลวกไม่ชอบกลิ่นของกาวประสานไม้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกันปลวก

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้โอ๊ค
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 1.35 ตารางเมตร
หน้ากว้าง : 5 นิ้ว

TAPIO สีไม้โอ๊ค รุ่น PH047

10-TAPIO-สีไม้โอ๊ค-รุ่น-PH-047

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ TAPIO LUX สีไม้โอ๊ค รุ่น PH047 ขนาด 45x45x1.5 ซม. ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสวยงามและความทนทานให้กับพื้นที่ภายในบ้าน ด้วยลวดลายไม้โอ๊คที่ดูเป็นธรรมชาติ ผลิตจากไม้แท้คุณภาพสูง โครงสร้างไม้เสริมความแข็งแรงด้วยไม้อัดสลับเสี้ยน ช่วยป้องกันการบิดโก่ง พร้อมทั้งผ่านการอบและอัดน้ำยากันปลวก ทำให้ทนทานต่อการขีดข่วนและการใช้งานระยะยาว เหมาะสำหรับการปูพื้นในบ้านหลากหลายรูปแบบ ติดตั้งและรื้อถอนง่าย ดูแลรักษาได้สะดวก

วัสดุที่ใช้ผลิต : ไม้แท้
เหมาะกับขนาดพื้นที่ : 1.22 ตรม.
หน้ากว้าง : 45 cm

ทำความเข้าใจวัสดุที่ใช้ในพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

เมื่อคุณกำลังพิจารณา พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ 10 รุ่นยอดนิยม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจถึงวัสดุที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ วัสดุเหล่านี้มีผลอย่างมากต่อความทนทาน ลักษณะ และการดูแลรักษาของพื้นไม้ การรู้ว่าวัสดุอะไรบ้างที่ใช้ในการทำพื้นเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ ส่วนนี้จะอธิบายถึงประเภทของไม้และวัสดุที่ใช้กันทั่วไป ข้อดีของพวกมัน และผลกระทบต่อคุณภาพโดยรวมของพื้นไม้

ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา

  • ประเภทของไม้:

    ไม้เนื้อแข็ง: มักใช้เป็นชั้นบนสุดของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ไม้เนื้อแข็งให้ความรู้สึกและลักษณะที่เป็นธรรมชาติ มีความทนทาน และสามารถขัดผิวและเคลือบใหม่ได้หลายครั้ง

    ไม้อัด: โดยทั่วไปใช้ในชั้นแกนกลาง ไม้อัดเพิ่มความเสถียรให้กับพื้นไม้ โดยทำจากการวางแผ่นไม้บางๆ หลายชั้นซ้อนกันแล้วติดกาว ซึ่งช่วยต้านทานการบิดงอและความชื้น

    แผ่นไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นสูง (HDF): บางครั้งใช้แทนไม้อัด HDF มีความหนาแน่นมากกว่าและให้แกนกลางที่แข็งแรงและเสถียรมากขึ้น ทนต่อรอยบุบและรอยขีดข่วนได้ดีกว่า

  • วัสดุอื่น ๆ:

    เรซิน: เพิ่มเพื่อปรับปรุงความต้านทานความชื้น เรซินสามารถนำไปใช้กับชั้นแกนกลางหรือเป็นชั้นปิดผิวบนสุด

    วีเนียร์: ชั้นบาง ๆ ของไม้จริงที่ปิดบนพื้นผิวด้านบนของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ทำให้ดูเหมือนไม้เนื้อแข็ง

    การเคลือบ UV: ชั้นป้องกันที่เคลือบผิวด้านบนเพื่อป้องกันความเสียหายจากแสงแดดและเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอ

  • ประโยชน์ของวัสดุต่าง ๆ:

    ความทนทาน: การใช้ไม้และวัสดุคุณภาพสูงเช่น HDF หรือไม้อัดช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของพื้นไม้

    ลักษณะ: วีเนียร์และชั้นไม้เนื้อแข็งให้ลักษณะที่สวยงามและเป็นธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความสวยงามของห้อง

    การดูแลรักษา: การเคลือบ UV และชั้นเรซินทำให้พื้นไม้ทำความสะอาดและดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น ลดการบำรุงรักษาในระยะยาว

ตารางเปรียบเทียบวัสดุในพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

วัสดุ วัตถุประสงค์ ประโยชน์
ไม้เนื้อแข็ง ชั้นบนสุด ลักษณะธรรมชาติ, ทนทาน, สามารถขัดผิวและเคลือบใหม่ได้
ไม้อัด ชั้นแกนกลาง เพิ่มความเสถียร, ต้านทานการบิดงอและความชื้น
แผ่นไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นสูง (HDF) ชั้นแกนกลาง แข็งแรง เสถียร ทนต่อรอยบุบและรอยขีดข่วน
เรซิน ความต้านทานความชื้น, ชั้นปิดผิว ปรับปรุงความต้านทานความชื้น เพิ่มความทนทาน
วีเนียร์ ชั้นผิวด้านบน ให้ลักษณะเหมือนไม้เนื้อแข็ง มีความคุ้มค่ากว่า
การเคลือบ UV ชั้นป้องกัน ป้องกันแสงแดด, เพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอ

การเข้าใจถึงวัสดุเหล่านี้และประโยชน์ของพวกมันจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ได้อย่างรอบคอบ เมื่อคุณรู้ว่าวัสดุแต่ละชนิดมีส่วนช่วยให้พื้นไม้มีคุณภาพอย่างไร คุณจะมั่นใจได้ว่าคุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการในด้านความทนทาน ลักษณะ และการดูแลรักษาของคุณ

การเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่ต่างกัน

เมื่อคุณเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาขนาดของห้องที่คุณจะติดตั้งพื้นไม้ ไม่ใช่พื้นไม้ทุกชนิดจะเหมาะกับทุกขนาดห้อง ห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าอาจดูดีขึ้นเมื่อใช้แผ่นไม้ที่กว้างกว่า ในขณะที่พื้นที่ขนาดเล็กอาจได้ประโยชน์จากแผ่นไม้ที่แคบกว่า การเข้าใจถึงวิธีที่ความกว้างของแผ่นไม้มีผลต่อรูปลักษณ์และความรู้สึกของห้องจะช่วยให้คุณเลือกได้อย่างเหมาะสม

ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา

  • ห้องขนาดใหญ่:

    แผ่นไม้ที่กว้างกว่า มักจะเหมาะกับห้องขนาดใหญ่ เพราะจะทำให้พื้นที่รู้สึกเปิดกว้างและใหญ่ขึ้น

    รอยต่อระหว่างแผ่นไม้ที่น้อยลงทำให้ดูเรียบเนียนและไร้รอยต่อมากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ใหญ่เช่นห้องนั่งเล่นหรือพื้นที่เปิดโล่ง

    ความกว้างของแผ่นไม้ ที่ 5 นิ้วขึ้นไป มักจะแนะนำสำหรับห้องขนาดใหญ่

  • ห้องขนาดเล็ก:

    แผ่นไม้ที่แคบกว่า สามารถช่วยให้ห้องขนาดเล็กดูมีรายละเอียดและมีเท็กซ์เจอร์มากขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มลักษณะพิเศษให้กับห้องได้

    รอยต่อที่มากขึ้นจากแผ่นไม้ที่แคบกว่าอาจทำให้ห้องดูมีความยุ่งเหยิงมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นที่ต้องการในพื้นที่เช่นห้องนอนหรือห้องทำงาน

    ความกว้างของแผ่นไม้ ที่ 3 ถึง 4 นิ้ว มักจะเหมาะกับห้องขนาดเล็ก

  • ห้องขนาดกลาง:

    ห้องขนาดกลางให้ความยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้คุณสามารถเลือกใช้แผ่นไม้ที่กว้างหรือแคบได้ตามความชอบในการออกแบบ

    ควรพิจารณาการจัดวางห้องและแสงสว่างเพื่อกำหนดว่าแผ่นไม้ขนาดใดจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ได้ดีที่สุด

ตารางเปรียบเทียบคำแนะนำความกว้างของแผ่นไม้

ขนาดห้อง ความกว้างของแผ่นไม้ที่แนะนำ ผลกระทบต่อรูปลักษณ์ของห้อง
ห้องขนาดใหญ่ 5 นิ้วขึ้นไป ทำให้ห้องรู้สึกเปิดกว้างและใหญ่ขึ้น; รอยต่อน้อยลง
ห้องขนาดเล็ก 3 ถึง 4 นิ้ว เพิ่มรายละเอียดและเท็กซ์เจอร์; รอยต่อมากขึ้นทำให้ดูยุ่ง
ห้องขนาดกลาง 3 ถึง 5 นิ้ว ให้ความยืดหยุ่น; ช่วยเพิ่มความสวยงามตามการจัดวางและแสงสว่าง

การเลือกความกว้างของแผ่นไม้ที่เหมาะสมตามขนาดห้องของคุณจะช่วยให้คุณได้ลักษณะที่ต้องการในแต่ละพื้นที่ เมื่อพิจารณาว่าความกว้างที่แตกต่างกันมีผลต่อรูปลักษณ์ของห้องอย่างไร คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับการออกแบบโดยรวมของบ้านคุณ

ความสำคัญของหน้ากว้างแผ่นไม้ในพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

เมื่อคุณเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ความกว้างของแผ่นไม้เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา ความกว้างของแผ่นไม้มีผลอย่างมากต่อรูปลักษณ์และความรู้สึกของห้อง รวมถึงความง่ายในการติดตั้ง การเข้าใจว่าความกว้างของแผ่นไม้แต่ละแบบมีผลอย่างไรต่อการออกแบบโดยรวมจะช่วยให้คุณเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพื้นที่ของคุณ ส่วนนี้จะช่วยแนะนำวิธีการเลือกความกว้างของแผ่นไม้ที่เหมาะสมตามความต้องการในการออกแบบของคุณ

ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา

  • แผ่นไม้ที่กว้างกว่า:

    ผลกระทบด้านรูปลักษณ์: แผ่นไม้ที่กว้างกว่าจะทำให้ห้องรู้สึกใหญ่และโปร่งโล่งมากขึ้น เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ที่คุณต้องการเน้นความกว้างและสร้างความรู้สึกที่ไร้รอยต่อ

    การติดตั้ง: แผ่นไม้ที่กว้างกว่าจะครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นด้วยจำนวนแผ่นที่น้อยลง ซึ่งสามารถเร่งกระบวนการติดตั้งให้เร็วขึ้น แต่ต้องจัดแนวให้แม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงช่องว่าง

    สไตล์การออกแบบ: แผ่นไม้แบบนี้มักใช้ในงานออกแบบที่ทันสมัยหรือร่วมสมัย ซึ่งต้องการลุคที่สะอาดและกว้างขวาง

  • แผ่นไม้ที่แคบกว่า:

    ผลกระทบด้านรูปลักษณ์: แผ่นไม้ที่แคบกว่าจะเพิ่มเท็กซ์เจอร์และรายละเอียดให้กับห้อง ทำให้พื้นที่รู้สึกมีความละเอียดและอบอุ่นขึ้น เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กที่คุณต้องการสร้างบรรยากาศที่ละเอียดและอบอุ่น

    การติดตั้ง: แผ่นไม้ที่แคบกว่าจะใช้เวลานานกว่าในการติดตั้งเพราะต้องใช้แผ่นไม้จำนวนมากขึ้นในการครอบคลุมพื้นที่เดียวกัน ซึ่งอาจต้องใช้แรงงานมากขึ้น

    สไตล์การออกแบบ: แผ่นไม้ที่แคบกว่ามักใช้ในงานออกแบบแบบดั้งเดิมหรือสไตล์ชนบท ซึ่งเท็กซ์เจอร์ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเสริมความงามโดยรวม

  • การเลือกความกว้างที่เหมาะสม:

    พิจารณา ขนาดของห้อง และความรู้สึกที่คุณต้องการสร้าง สำหรับห้องที่ใหญ่กว่า แผ่นไม้ที่กว้างกว่าอาจเหมาะสมมากกว่า ในขณะที่ห้องที่เล็กกว่าอาจได้ประโยชน์จากรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นของแผ่นไม้ที่แคบกว่า

    คิดถึง สไตล์การออกแบบ ที่คุณต้องการ หากคุณชอบการออกแบบที่ทันสมัย แผ่นไม้ที่กว้างกว่าอาจเหมาะสมกว่า ในขณะที่แผ่นไม้ที่แคบกว่าดีกว่าสำหรับสไตล์ดั้งเดิมหรือแบบละเอียด

    ประเมิน กระบวนการติดตั้ง และความพร้อมในการลงทุนเวลาและความพยายาม แผ่นไม้ที่กว้างกว่าติดตั้งได้เร็วกว่า ในขณะที่แผ่นไม้ที่แคบกว่าต้องใช้เวลามากขึ้น

ตารางเปรียบเทียบความกว้างของแผ่นไม้

ความกว้างของแผ่นไม้ เหมาะสำหรับ ผลกระทบต่อห้อง กระบวนการติดตั้ง
แผ่นไม้ที่กว้างกว่า ห้องขนาดใหญ่, งานออกแบบที่ทันสมัย ทำให้ห้องรู้สึกใหญ่และโปร่งโล่งขึ้น ติดตั้งได้เร็วขึ้น มีจำนวนแผ่นที่น้อยลง
แผ่นไม้ที่แคบกว่า ห้องขนาดเล็ก, งานออกแบบดั้งเดิม เพิ่มเท็กซ์เจอร์และรายละเอียด ติดตั้งได้ช้ากว่า ใช้จำนวนแผ่นมากกว่า

โดยการพิจารณาประเด็นเหล่านี้อย่างถี่ถ้วน คุณจะสามารถเลือกความกว้างของแผ่นไม้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับขนาดห้อง สไตล์การออกแบบ และความต้องการในการติดตั้งของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ของคุณดูสวยงามและทำงานได้ดีในพื้นที่ของคุณ

ในบทความนี้ เราได้รีวิว พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ 10 รุ่นยอดนิยม โดยมุ่งเน้นที่เกณฑ์สำคัญสามประการ ได้แก่ วัสดุที่ใช้ในการผลิต ความเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ และความกว้างของแผ่นไม้ แต่ละยี่ห้อได้รับการประเมินอย่างละเอียดตามปัจจัยเหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ นอกจากนี้ เรายังได้กล่าวถึงหัวข้อสนับสนุนที่สำคัญสามประการ ได้แก่ การทำความเข้าใจวัสดุที่ใช้ในพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ การเลือกพื้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับขนาดห้องที่แตกต่างกัน และความสำคัญของความกว้างของแผ่นไม้ ส่วนเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับความต้องการของพื้นไม้ของคุณได้อย่างรอบคอบ บทความสรุปโดยการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ด้วยกัน เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนในการเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับพื้นที่ของคุณ

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save