ต่อเติมบ้าน ทำอย่างไรให้มีคุณภาพ กับ ‘เทคนิคการจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง’

บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ July 26, 2023

ต่อเติมบ้าน ทำอย่างไรให้มีคุณภาพ กับ เทคนิคการจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างให้โดนใจ

ต่อเติมบ้าน หรือซื้อบ้านใหม่เป็นสิ่งที่มีใครหลายคนมีความคิดที่จะเลือกมากกว่าที่จะซื้อจากโครงการหมู่บ้านจัดสรร อาจจะเป็นด้วยสาเหตุเพราะมีที่ดินหรือบ้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากเป็นคนออกแบบบ้านเอง อยากได้บ้านที่เป็นสไตล์เฉพาะ หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่การสร้างบ้าน หรือต่อเติมบ้านก็ต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ เช่น แบบบ้าน งบประมาณ ผู้รับเหมาก่อสร้าง

ซึ่งในส่วนของผู้รับเหมาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การเลือกผู้รับเหมาก็คล้ายกับการซื้อล็อตเตอรี่ ถ้าเจอผู้รับเหมาที่ดีมีความรับผิดชอบก็เหมือนถูกรางวัลที่หนึ่งและนับเป็นวิธีสร้างบ้านไม่ให้งบบานปลายได้เป็นอย่างดี เพราะผู้รับเหมาเหล่านี้มักจะมีการวางแผนและควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีคุณภาพ แต่ถ้าโชคร้ายเจอผู้รับเหมาที่ทิ้งงาน ทำงานไม่ได้มาตรฐานก็ส่งผลต่อเจ้าของบ้านโดยตรงที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาในทีหลัง ดังนั้นถ้าเราไม่อยากตกเป็นเหยื่อของผู้รับเหมาที่ไม่ดี เราจึงต้องมีเทคนิคในการเลือกผู้รับเหมาตกแต่งต่อเติมอย่างไรให้มีคุณภาพ โดยจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน

---

1.เลือกผู้รับเหมาที่ไว้วางใจได้

วิธีการพิจารณาง่ายๆก็คือดูจากผลงานที่ผ่านมาหรือลองสอบถามจากคนที่เคยใช้บริการ อาจจะเป็นเพื่อน ญาติ หรือเพื่อนบ้านก็ได้ และควรเลือกเปรียบเทียบกันหลายๆเจ้าเพื่อที่เราจะได้เจอผู้รับเหมาที่ดีและทำให้เราสบายใจมากที่สุด แต่ทางที่ดีควรเลือกใช้บริการผู้รับเหมาที่มีบริษัทเป็นหลักเป็นแหล่ง เวลาที่จะเข้าไปติดตามงานจะได้สะดวก

---

2.จัดทำสัญญาว่าจ้างกันเป็นลายลักษณ์อักษร

ถึงแม้ว่างานจะเล็กน้อยมีมูลค่าไม่เท่าไหร่ แต่เราก็ไม่ควรละเลยที่จะทำหนังสือสัญญาจ้าง พร้อมทั้งเซ็นต์ชื่อทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน ระบุรายละเอียดให้ครอบคลุมทั้งหมด เช่น ขอบข่ายของงานที่จะให้ผู้รับเหมาทำ เงื่อนไขอัตราค่าจ้าง (กำหนดงวดชำะระเงิน) รับประกันผลงานกี่ปี มีค่าปรับกรณีงานล่าช้ากว่ากำหนดหรือไม่ ที่สำคัญคือเรื่องการว่าจ้างว่าเป็น “จ้างเฉพาะค่าแรง” หรือ “จ้างเหมาเบ็ดเสร็จ” เผื่อเกิดกรณีที่มีปัญหาในภายหลังสัญญาฉบับนี้จะได้เป็นตัวยืนยัน เพื่อที่จะได้มานั่งทะเลาะกันให้เสียเวลาในภายหลัง ที่สำคัญอย่าลืมศึกษาข้อควรรู้ก่อนต่อเติมบ้านให้ดีเพื่อที่จะทำสัญญาได้อย่างครอบคลุม

---

3.ทำ BOQ

หรือที่เรียกว่า Bill of Quantity  ก็คือการจัดทำบัญชีที่ใช้รวบรวมรายการประมาณค่าวัสดุก่อสร้าง โดยทำขึ้นจากแบบพิมพ์เขียวใช้จำแนกข้อมูลทีละส่วนออกมาอย่างละเอียด เช่น ราคา ปริมาณวัสดุ รุ่น แบรนด์ ขนาดของวัสดุที่ต้องใช้จริงในการก่อสร้าง เพื่อที่เราจะได้รู้ด้วยว่าผู้รับเหมาเจ้านั้น คิดค่าแรงและค่าวัสดุอย่างไร นอกจากนั้นยังนำมาใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบงานและควบคุมราคาก่อสร้างได้ด้วย จัดได้ว่าเป็นเอกสารที่ค่อนข้างสำคัญมากเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นการว่าจ้างสร้างบ้านทั้งหลังด้วยแล้วถือว่าจำเป็นมากๆ แต่ถ้าเป็นงานเล็กๆน้อยๆต่อเติมแค่บางจุดก็อาจไม่ถึงกับต้องทำ BOQ ให้ยุ่งยาก นอกเสียจากว่ากลัวว่าช่างจะโกงค่าวัสดุ จะจัดทำข้อมูลเผื่อไว้ก็ไม่เสียหายเช่นกัน

---

4.เงื่อนไขในการชำระเงิน

การแบ่งจ่ายเงินที่ดีที่สุดก็คือการแบ่งเงินออกเป็นงวดๆตามเนื้องาน มากกว่าที่จะจ่ายเป็นก้อนใหญ่ เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงที่จะถูกเชิดเงินหนีหรือทิ้งงานก่อนกำหนด และยังเป็นวิธีที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้รับเหมาทำงานให้เร็วขึ้น ดังนั้นเมื่อตกลงเงื่อนไขการจ่ายเงินได้เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ใส่ลงไปในสัญญาว่าจ้างให้เรียบร้อย รวมทั้งควรระมัดระวังกรณีที่ผู้รับเหมาจะขอเบิกเงินล่วงหน้าเป็นจำนวนมากไว้ด้วย

---

5.หมั่นเข้าไปตรวจสอบงานเสมอ

เพื่อที่จะได้ป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา จะได้แก้ไขได้ทัน และตรวจสอบดูว่าจะมีการโกงค่าวัสดุก่อสร้างหรือไม่ ด้วยการสุ่มเข้าไปตรวจสอบพยามยามสลับวัน/เวลาที่ไม่ซ้ำกัน แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอที่จะเข้าไปตรวจสอบ อาจจะจ้างสถาปนิกหรือโฟร์แมนให้เข้าไปดูแลการก่อสร้างแทนก็ได้

---

6.จ้างมืออาชีพช่วยตรวจรับบ้าน

เชื่อได้ว่าเจ้าของบ้านหลายคนไม่มีความชำนาญพอที่จะตรวจสอบบ้านอย่างละเอียดด้วยตาเปล่าได้ทุกจุด หรือมีความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างดีพอ ดังนั้นจึงควรจ้างบริษัทที่มีความรู้ ความชำนาญโดยเฉพาะให้เข้าไปจัดการตรวจรับบ้านกับเราด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้บ้านตรงตามแบบที่เราต้องการและเป็นบ้านในฝันของเราอย่างแท้จริง

---

สิ่งที่ควรรู้ก่อน ต่อเติมบ้าน

เมื่อคุณรู้เทคนิคการจ้างผู้รับเหมาแล้ว ในส่วนต่อไปก็จะเป็นการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมทั้งด้านการกำหนดงบประมาณไม่ให้บานปลาย รวมถึงข้อที่ต้องระวังในการต่อเติมบ้านด้วย โดยความสำคัญของการวางแผนและการเตรียมความพร้อมก่อนการต่อเติมบ้าน สรุปได้ดังนี้

1. การวางแผนโดยละเอียด: การต้องวางแผนโดยละเอียดโดยคำนึงถึงการตกแต่งภายใน การเพิ่มพื้นที่ใช้สอย การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายนอก การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ฯลฯ เพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์และไม่มีการเสียเวลาและเงินทุนที่ไม่จำเป็น
2. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพสูง: การเลือกวัสดุที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้งานเสร็จสมบูรณ์ได้ดีและไม่ต้องใช้เวลาและเงินทุนในการซ่อมแซมหลังจากการต่อเติมเสร็จสิ้น นอกจากนี้วัสดุที่มีคุณภาพดียังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกด้วย
3. ตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนด: การต่อเติมบ้านอาจมีข้อกำหนดและกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม เช่น การขออนุญาตก่อสร้าง การตรวจสอบขนาดพื้นที่ของสิ่งก่อสร้าง การตรวจสอบพื้นที่เป็นที่ตั้ง และอื่นๆ ดังนั้นควรตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4. ตรวจสอบประกันการบ้าน: การต่อเติมบ้านอาจทำให้บ้านไม่ได้รับการประกันเหมือนเดิม ดังนั้นควรตรวจสอบประกันการบ้านและอย่างน้อยต้องมีการปรับปรุงประกันการบ้านให้เหมาะสมกับการต่อเติมบ้าน

การต่อเติมบ้านเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีความสำคัญ ฉะนั้นแล้วการวางแผนล่วงหน้าและการเตรียมความพร้อมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์ ไม่มีการเสียเวลาและไม่ทำให้งบบานปลาย ดังนั้นควรพิจารณาและปฏิบัติตามข้อควรรู้เหล่านี้ก่อนที่จะเริ่มต้นต่อเติมบ้านเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีคุณภาพตามความต้องการของคุณ

---

ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินราคาในการต่อเติมบ้าน

ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินราคาในการต่อเติมบ้านจะเกี่ยวข้องกับ สถานที่ก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง, ฝีมือของผู้รับเหมา, และปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาพอากาศ, ความล่าช้าของการทำงาน ซึ่งทั้งหมดมีผลต่อการประเมินราคาในกาต่อเติมบ้านทั้งสิ้น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีราคาต่ำไม่ได้หมายความว่าจะทำบ้านได้ถูกสุดๆ แต่จำเป็นต้องพิจารณาคุณภาพและความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสถานที่ด้วย แม้ว่าผู้รับเหมาที่มีฝีมือดีและมีประสบการณ์จะเสนอราคาสูงกว่าแต่งานก็จะมีคุณภาพและมีความถูกต้องมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการประเมินราคา เช่น สภาพอากาศและปัจจัยสภาพแวดล้อมอื่นๆ ดังนั้นการประเมินราคาในการทำบ้านควรพิจารณาทุกปัจจัยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจในการต่อเติมบ้านใหม่

แต่หากงบประมาณในการก่อสร้างบ้านเกินกว่าที่คุณสามารถจ่ายได้อาจมีวิธีสร้างบ้านไม่ให้งบบานปลาย เช่น ตรวจสอบและปรับปรุงแผนผังและการออกแบบบ้าน ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนการสร้างบ้านลงได้ รวมถึงลดขนาดของบ้านหรือปรับเปลี่ยนแผนผังบ้านให้เหมาะสมกับงบประมาณ และลดการใช้วัสดุก่อสร้างที่แพง หรือเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะการเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการสร้างบ้านจะช่วยลดความเสี่ยงในการบานปลายของงบประมาณได้ เนื่องจากผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญสามารถวางแผนการสร้างและควบคุมความเสี่ยงได้ดี

---

คำแนะนำสำหรับการ ต่อเติมบ้าน: รู้จักโครงสร้างบ้านและเตรียมตัวให้ดีก่อนเริ่มต้น

การต่อเติมบ้านเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังเพราะอาจเกิดความเสี่ยงและปัญหาต่างๆ ดังนั้น ควรรู้จักบ้านของตนเองอย่างถ่องแท้เพื่อเข้าใจโครงสร้างของบ้านและสามารถวางแผนการต่อเติมได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ควรเข้าใจธรรมชาติของการก่อสร้างและการแตกร้าว เพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและวางแผนการจัดการโดยมี 5 ข้อควรระวังก่อนคิดต่อเติมบ้าน ดังนี้

• รู้จักบ้านของตนเองอย่างถ่องแท้
• เข้าใจธรรมชาติของการก่อสร้าง (เช่น การแตกร้าว)
• ระวังเรื่องการเงินและต้นทุน
• เลือกบริษัทที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ
• ประเมินผลของการต่อเติมทั้งในระยะสั้นและยาว

การต่อเติมบ้านเป็นเรื่องที่ต้องการการเตรียมความพร้อมและความระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาและเพิ่มโอกาสในการดำเนินงานให้สำเร็จไปได้อย่างราบรื่น ด้วยเหตุนี้ ข้อควรรู้ก่อนต่อเติมบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณวางแผนและจัดการปัญหาได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การระวังเรื่องการเงินและต้นทุน การเลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และการประเมินผลของการต่อเติมทั้งในระยะสั้นและยาว ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนการต่อเติมบ้านอีกด้วย

---

สำหรับเทคนิคการจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างให้โดนใจและข้อควรรู้ก่อนต่อเติมบ้าน เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องการต่อเติมบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยหรือปรับปรุงสภาพบ้านให้มีคุณภาพมากขึ้น การเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างที่ดีและเชี่ยวชาญจะช่วยให้งานต่อเติมบ้านของคุณเสร็จสมบูรณ์ตามความต้องการและไม่เสียเวลาและเงินทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยให้เลือกผู้รับเหมาก่อสร้างได้ดีคือการตรวจสอบประวัติการทำงานและความสามารถของผู้รับเหมาก่อสร้าง อีกเทคนิคหนึ่งคือการขอรับข้อเสนอราคาจากผู้รับเหมาก่อสร้างหลายคน เพื่อเปรียบเทียบราคาและเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างที่ให้ราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณ นอกจากนี้ ยังมีข้อควรรู้ก่อนต่อเติมบ้านที่สำคัญอีกหลายอย่าง เช่น การเตรียมงบประมาณให้ดีเพื่อไม่ให้งบบานปลาย หรือการวางแผนงานและตรวจสอบผลงานของผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้นอีกด้วย