กระเบื้องลายไม้ คืออะไร และมีรูปแบบการใช้งานอย่างไร ในแต่ละชนิด

บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 4, 2023

กระเบื้องลายไม้ (Wood Tiles) กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสําหรับเจ้าของบ้านและผู้ก่อสร้างเนื่องจากมีลักษณะธรรมชาติ ทนทาน และหลากหลายการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะพิจารณากระเบื้องลายไม้สําหรับบ้านของคุณหรือเพียงแค่อยากรู้จักวัสดุที่สวยงามชนิดนี้ คู่มือนี้จะให้ภาพรวมอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับกระเบื้องลายไม้ การใช้งาน ประเภทต่างๆ และวิธีการดูแลรักษาที่เหมาะสม

กระเบื้องลายไม้ คืออะไร

กระเบื้องลายไม้เป็นชนิดหนึ่งของวัสดุปูพื้นที่จําลองลักษณะและพื้นผิวธรรมชาติของไม้ แต่มีความทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษาเหมือนกระเบื้องทั่วไป ส่วนมากทํามาจากเซรามิกหรือพอร์ซเลนที่มีลวดลายเลียนแบบไม้ ซึ่งมีข้อได้เปรียบคือกันน้ําได้ ทนต่อรอยขีดข่วน และบิดตัวน้อยกว่าไม้ธรรมชาติ

ประเภทของกระเบื้องลายไม้ แต่ละชนิด

กระเบื้องลายไม้มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหน้างานหรือความต้องการในเรื่องของความสวยงาม โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้

• กระเบื้องลายไม้พอร์ซเลน (Porcelain Wood Tiles) : กระเบื้องชนิดนี้ทนทานมาก กันน้ําได้ดี และรองรับน้ำหนักได้ดี ทําให้เหมาะสําหรับการใช้ภายในและภายนอกอาคาร

• กระเบื้องลายไม้เซรามิก (Ceramic Wood Tiles) : แม้กระเบื้องเซรามิกจะไม่ทนทานเท่ากระเบื้องพอร์ซเลน แต่ตัดและติดตั้งได้ง่ายกว่า ทําให้เป็นทางเลือกยอดนิยมสําหรับโครงการดีย์ไอวาย (DIY)

• กระเบื้องลายไม้เคลือบแก้ว (Glazed Wood Tiles) : กระเบื้องชนิดนี้มีชั้นแก้วเคลือบผิวเพิ่มเติม ทําให้มีความทนทานและกันสิ่งสกปรกได้ดีขึ้น

• กระเบื้องลายไม้ไม่เคลือบแก้ว (Un-glazed Wood Tiles) : กระเบื้องแบบนี้ไม่มีชั้นเคลือบแก้ว ทําให้มีลักษณะเป็นธรรมชาติและมีเอกลักษณ์ แต่จะป้องกันสิ่งสกปรกได้น้อยกว่า

วิธีการนํากระเบื้องลายไม้ไปใช้

กระเบื้องลายไม้มีความหลากหลายในการใช้งาน และสามารถนําไปใช้ได้หลายประเภทในบ้าน หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆ รวมถึงอาคารพาณิชย์

• ปูพื้นทั่วไป : กระเบื้องลายไม้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสําหรับปูพื้น ด้วยความทนทานและลวดลายที่คล้ายไม้จริง
• ผนังไฮไลต์ : กระเบื้องลายไม้สามารถนํามาใช้สร้างผนังไฮไลต์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเพิ่มพื้นผิวให้กับพื้นที่ใดก็ได้
• พื้นที่ภายนอก : กระเบื้องลายไม้พอร์ซเลนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสําหรับพื้นที่ภายนอก เช่น ระเบียง และเส้นทางเดิน เนื่องจากทนต่อสภาพอากาศและความชื้นได้ดี

วิธีการติดตั้งกระเบื้องลายไม้

การติดตั้งกระเบื้องลายไม้ต้องอาศัยขั้นตอนและทักษะเฉพาะ แต่ผู้ชํานาญการดีย์ไอวายก็สามารถทําได้เช่นกัน โดยขั้นตอนการติดตั้งกระเบื้องลายไม้สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

1. เตรียมพื้นที่ : ขั้นแรกคือเตรียมพื้นผิว ต้องแน่ใจว่าพื้นเรียบ สะอาด แห้ง และได้ระดับ เพราะความไม่สม่ําเสมออาจทําให้กระเบื้องแตกได้ในการใช้งานระยะยาว
2. วางผังก่อนติดตั้ง : ก่อนติดตั้ง ควรจะมีการจัดวางผังให้เรียบร้อย ซึ่งจะช่วยให้ทราบตําแหน่งตัดกระเบื้องและหลีกเลี่ยงการตัดเกินความจําเป็น
3. เคลือบกาว : ใช้พู่กันทากาวกระเบื้องลงบนพื้น โดยทําเป็นบริเวณเล็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กาวแห้งก่อน
4. วางกระเบื้อง : นํากระเบื้องวางลงบนกาว ตรวจให้แน่ใจว่าระยะห่างระหว่างกระเบื้องเท่ากัน ใช้แรงกดลงเพื่อให้กระเบื้องติดกับพื้น
5. ตัดกระเบื้อง : ใช้เครื่องตัดกระเบื้องเปียกเพื่อตัดกระเบื้องให้เข้ามุมหรือขอบต่างๆ
6. ทาปูนทราย : เมื่อกาวแห้งสนิทแล้ว ให้ทาแนวรอยต่อระหว่างกระเบื้องด้วยปูนทราย
7. ซีล : หลังจากปูนทรายแห้งสนิท ทาซีลเพื่อป้องกันรอยต่อและป้องกันคราบ

การดูแลรักษากระเบื้องลายไม้

แม้กระเบื้องลายไม้จะทนทานและดูแลง่ายกว่าไม้จริง แต่ก็ต้องดูแลอย่างถูกวิธีเพื่อให้มีสภาพดีอยู่เสมอ โดยวิธีการดูแล และวิธีทำความสะอาดสามารถทำได้ตามวิธีดังนี้

1. ปัดกวาดหรือดูดฝุ่นบ่อยๆ เพื่อกําจัดฝุ่นที่อาจขีดข่วนพื้นผิว
2. เช็ดคราบทันทีเพื่อป้องกันรอยเปื้อน
3. ทําความสะอาดด้วยน้ํายาทําความสะอาดกระเบื้องที่อ่อนโยน
4. หลีกเลี่ยงการใช้น้ํายาทําความสะอาดหรือเครื่องมือที่มีความหยาบจนเกินไป

สรุปได้ว่า กระเบื้องลายไม้ถือว่าเป็นกระเบื้องอีกหนึ่งชนิดที่ให้ความสวยงามเหมือนไม้จริงโดยไม่ต้องเสียเวลาดูแลเหมือนกับการใช้วัสดุไม้แท้ กระเบื้องลายไม้เป็นทางเลือกที่หลากหลาย และยังมีความทนทาน และมีประโยชน์สําหรับการใช้งานหลายอย่างในบ้านหรืออาคาร สำหรับข้อมูลกระเบื้องลายไม้ที่เราได้เอ่ยมานี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้กระเบื้องลายไม้อย่างเหมาะสมสําหรับโครงการต่อไปของคุณ ได้อย่างพึงพอใจ

---

เครื่องมือใช้ร่วมกับกระเบื้องลายไม้บ่อย ๆ

1. ยาแนว (Sealant)

ยาแนวอุปกรณ์สำคัญในการติดตั้งกระเบื้องลายไม้ ทําหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันการซึมของความชื้น ทําให้ไม้บิดงอหรือเกิดรา การใช้ยางรอยต่อจะทําให้มั่นใจได้ว่ากระเบื้องจะอยู่ในสภาพดีเป็นเวลานาน รักษาความงดงามและความสมบูรณ์ของกระเบื้อง สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาแนว เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพที่ คุณสมบัติของยาแนว

2. กาวยาแนว (Cement Grout)

กาวยาแนวใช้ในกระบวนการวางกระเบื้อง ช่วยเติมช่องว่างระหว่างกระเบื้อง ทําให้ได้พื้นผิวเรียบและเสมอ นอกจากนี้ยังเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงให้กับพื้นกระเบื้อง ป้องกันความชื้นจากการซึมผ่านช่องได้ ซึ่งอาจทําให้เกิดความเสียหาย สําหรับเคล็ดลับในการใช้งานกาวยาแนวให้ปฏิบัติตามคําแนะนํา เทคนิคการใช้กาวยาแนว

3. ปูนกาว (Cement Tile Adhesive)

การใช้ปูนกาว ช่วยให้กระเบื้องติดพื้นหรือผนังได้อย่างแน่นหนา ลดความเสี่ยงที่กระเบื้องจะหลุดออกตามกาลเวลา กาวชนิดนี้ถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยเฉพาะเพื่อยึดเกาะกับวัสดุได้ดี ทําให้กระบวนการติดตั้งง่ายขึ้นและมั่นคงมากขึ้น เรียนรู้เทคนิคและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการใช้กาวชนิดนี้ที่ ขั้นตอนการใช้งานปูนกาว

4. เกรียง (Trowel)

เกรียงถูกใช้เพื่อเกลี่ยปูนหรือกาวยาแนวให้ทั่วถึงบนพื้นผิวก่อนวางกระเบื้อง ทําให้ได้ชั้นกาวยาแนวที่สม่ำเสมอและเรียบ ช่วยพื้นผิวปูกระเบื้องที่เรียบและยึดเกาะกันได้ดี เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ต้องมีในขั้นตอนการปูกระเบื้องทุกชนิด โดยคุ๊วิธีการใช้เกรียงอย่างมีประสิทธิภาพได้ที่ วิธีการใช้งานเกรียง

5. ค้อนยาง (Rubber Mallets)

หัวที่นุ่มของค้อนยางช่วยให้สามารถปรับหนากระเบื้องได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่ทําให้เกิดความเสียหายหรือแตกร้าว การใช้ค้อนยางช่วยให้ได้พื้นผิวที่เรียบและเสมอกัน เนื่องจากช่วยกระจายแรงได้สม่ำเสมอ วยในการวางกระเบื้องลงบนกาวยาแนวได้อย่างเหมาะสม เรียนรู้วิธีการใช้ค้อนยางอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการติดตั้งกระเบื้องเซรามิกเป็นไปอย่างราบรื่นและสําเร็จลุล่วงที่ ค้อนยางใช้งานอย่างไร