บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 21, 2023

การปูกระเบื้อง 5 เทคนิคเลือกกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะกับบ้าน

การปูกระเบื้อง เป็นเรื่องที่คนวางแผนจะก่อสร้างบ้านหรือปรับปรุงบ้านเก่าอาจจะต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ห้ามมองข้ามส่วนสำคัญส่วนใดส่วนหนึ่งไปเด็ดขาด โดยเฉพาะการเลือกวัสดุปูพื้นอย่างเช่นกระเบื้อง ข้อดีของการเลือกกระเบื้องคือสามารถทำความสะอาดได้ง่าย หาซื้อได้ไม่ยาก ถ้าเกิดการชำรุดก็ใช้วิธีซ่อมแซมบ้านด้วยการเปลี่ยนเฉพาะบางแผ่นได้สะดวก ฉะนั้นวันนี้เราจึงแนะนำเทคนิคการเลือกกระเบื้องให้เข้ากับบ้านมาฝากกัน


1.เน้นเลือกกระเบื้องให้มีความหนา

เน้นเลือกกระเบื้องให้มีความหนา

โดยเฉพาะกระเบื้องปูพื้นควรที่จะมีความหนาที่มากกว่ากระเบื้องปูผนัง เพื่อจะได้ช่วยรองรับน้ำหนักจากการเดินเหยียบได้มากขึ้น และกระเบื้องที่จะใช้ปูติดกับพื้นบ้านผิวหน้าควรที่จะเคลือบด้านหรือมีความสากเสียเล็กน้อยจะได้ป้องกันการลื่นไถลเวลาเดิน


2.เลือกขนาดสัดส่วนของกระเบื้องปูพื้น

เลือกขนาดสัดส่วนของกระเบื้องปูพื้น

เรื่องขนาดสัดส่วนของกระเบื้องปูพื้นถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการเลือกกระเบื้องให้มีความสัมพันธ์กับการใช้งานในแต่ละห้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น กระเบื้องปูพื้นขนาด 12 x 12 ตารางนิ้ว เหมาะที่จะนำมาปูในห้องโถงทั่วไป ขนาดใหญ่กำลังพอเหมาะที่จะไม่เป็นตารางถี่มากจนเกินไปจนดูลายตา แต่ถ้าเป็นห้องน้ำก็ให้เลือกขนาดกระเบื้องปูพื้นที่เล็กลงมา เพิ่มความถี่ให้เป็นเหมือนเพิ่มพื้นผิวที่หยาบขึ้นเพื่อลดอุบัติเหตุที่จะทำให้เดินลื่นล้มด้วยการมาเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นขนาดประมาณ 8 x 8 ตารางนิ้ว


3.เลือกสีให้เหมาะ

เลือกสีให้เหมาะ

สีของกระเบื้องนอกจากจะเลือกที่สวยงามและเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานแล้ว ควรเลือกที่มันตอบโจทย์กับลักษณะพื้นที่ในการใช้งานแถมไปด้วย ก็จะได้ประโยชน์เบิ้ลเป็น 2 เท่า

  • สีโทนอ่อน การใช้กระเบื้องปูพื้นที่เป็นสีโทนอ่อนจะเหมาะกับการใช้กับห้องภายในอาคารมากกว่า จะทำให้ห้องเล็กๆแคบๆ ดูกว้างขึ้น อีกทั้งกระเบื้องสีโทนอ่อนจะเห็นความสกปรกได้ง่าย หากนำไปปูอยู่ภายนอกอาคาร ผิวของกระเบื้องก็จะเจอกับแสงแดด ลม และฝนตลอดเวลา ทำให้เกิดริ้วรอยด่างดำขึ้นอย่างชัดเจน ยิ่งพอนานวันเข้าลวดลายที่เคยสวยงามก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
  • สีโทนเข้ม เหมาะที่จะนำไปปูกับพื้นที่ภายนอกอาคาร ที่ต้องโดนแดด โดนฝนอยู่บ่อยๆ หรือถ้าอยากปูในพื้นที่ภายในบ้านก็ควรเลือกตรงจุดที่มีการรองรับเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องวางสิ่งของจำนวนมากๆพื้นผิวมีการสัมผัสกับสารเคมี คราบน้ำมัน น้ำ อยู่บ่อยๆ เช่น ในห้องครัว โรงรถ ห้องน้ำ ระเบียง เพราะสีเข้มจะช่วยให้ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ดูแลรักษาได้ง่าย

4.ลวดลายของกระเบื้อง

ลวดลายของกระเบื้อง

นอกจากจะเลือกจากสัดส่วนและโทนสีของกระเบื้องแล้ว ลวดลายบนแผ่นกระเบื้องในร้านค้าปัจจุบันก็มีให้เราเลือกได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ต่อกันเป็นรูปร่างลวดลายขนาดใหญ่ ลายที่เลียนแบบพื้นผิวธรรมชาติ จนไปถึงว่าคุณสามารถที่จะออกแบบลวดลายได้เอง

  • ลวดลายขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นลวดลายที่ไม่ต่อเนื่อง สามารถจบลายได้ใน 1 แผ่น มักจะนำไปผสมผสานกับกระเบื้องที่เป็นลายเรียบ เพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับพื้น แต่เราก็ไม่ควรเลือกให้กระเบื้องที่มีลวดลายขนาดใหญ่เสียทั้งหมดในพื้นที่ที่ต้องการเป็นมุมพักผ่อน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน เพราะลายที่มากเกินไปจะส่งผลให้ลายตาและเกิดอาการเวียนหัว
  • ลวดลายขนาดเล็ก ลักษณะนี้จะเป็นลายที่มีความต่อเนื่อง ต้องใช้กระเบื้องหลายแผ่นถึงจะสามารถได้ลายที่กำหนดไว้ เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการเน้นความสวยงามเป็นพิเศษ หรือห้องที่ต้องการโชว์ความสวยงามของพื้นเช่น โถงรับแขก ห้องน้ำ ระเบียง ห้องครัว เป็นต้น
  • กระเบื้องเลียนแบบพื้นผิวธรรมชาติ นอกจากความสวยงามของกระเบื้องลายธรรมชาติแล้ว ยังมีประโยชน์อย่างอื่นที่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ คือ ยังมีความคงทน ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ดูดซับความชื้น ไม่ขยายตัวหรือโก่งงอเวลาที่เจออากาศร้อนหรือชื้นจนเกินไป ไม่เสื่อมสภาพจากการที่ต้องทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี จึงสามารถนำกระเบื้องลายธรรมชาตินี้ไปปูระเบียง ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือห้องครัวได้อย่างสวยงาม แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย จึงทำให้กระเบื้องลายแบบนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

5.เลือกซื้อตามเกรดคุณภาพของกระเบื้อง

เลือกซื้อตามเกรดคุณภาพของกระเบื้อง

โดยทั่วไปแล้วจะมีการแบ่งเกรดกระเบื้องปูพื้นออกเป็น 2 เกรดคือ

  • แบบมาตรฐาน สภาพจะสมบูรณ์ไม่พบร่องรอยแตกหรือมีตำหนิ สีเรียบเสมอกันทั่วทั่งแผ่น หรือที่จะเรียกกันว่ากระเบื้องปูพื้นเกรดเอ
  • แบบมีตำหนิ สภาพจะไม่สมบูรณ์ครบ 100% อาจจะพบตำหนิอยู่บ้างแต่ส่วนมากแล้วจะไม่เกิน 3 จุดและสังเกตแทบจะไม่เห็นร่องรอย เรียกว่ากระเบื้องปูพื้นเกรดบี ซึ่งสามารถนำไปปูยังพื้นที่ที่เราไม่ต้องการโชว์ลวดลายอย่างเช่นห้องเก็บของก็ได้

ดังนั้นการเลือกกระเบื้องปูพื้นนอกจากจะเลือกจากเทคนิคข้างต้นแล้ว ยังต้องพิจารณาจากอย่างอื่นประกอบด้วย โดยเฉพาะการที่ต้องสั่งซื้อกระเบื้องเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ให้พอเหมาะกับในห้องแต่ละห้อง ควรมีการตรวจสอบมาตรฐานของกระเบื้องปูพื้นให้ดีว่ามีร่องรอยหรือตำหนิต่างๆรวมทั้งมีสีเรียบเสมอกันหรือไม่ เพราะถ้าพบว่ามีตำหนิก็จะทำให้เห็นเด่นชัด ส่งผลให้พื้นภายในห้องของเราดูแล้วไม่สวยงาม ทางที่ดีจึงควรซื้อเพื่อสำรองไว้ด้วยกรณีที่กระเบื้องมีตำหนิหรือว่าชำรุดเสียหายระหว่าการปู และเผื่อต้องมาทำการซ่อมแซมในภายหลังด้วยคะ


พื้นกระเบื้องชำรุด มีวิธีซ่อมแซมอย่างไร

การซ่อมแซมกระเบื้องที่แตกหักเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยต้องเตรียมอุปกรณ์เช่น เทปกาว กระเบื้องที่เหมือนกับกระเบื้องแผ่นที่ชำรุด ตะปู ค้อน สิ่ว ปูนซีเมนต์ ทราย เกียงสำหรับโบกปูน และปูนยาแนว ก่อนที่จะเริ่มซ่อมแซมกระเบื้อง โดยวิธีซ่อมแซมพื้นกระเบื้องชำรุดด้วยตัวเองจะสามารถทำได้ดังนี้

1. ใช้เทปกาวแปะแผ่นกระเบื้อง

ใช้เทปกาวป้องกันไม่ให้กระเบื้องแตกหัก ยกเว้นบริเวณขอบปูนและแผ่นกระเบื้องที่ต้องการซ่อมแซม หลังจากนั้นใช้ปลายตะปูวางลงไปบริเวณกลางแผ่นกระเบื้องที่ชำรุด แล้วใช้ค้อนทุบกระเบื้องให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการนำกระเบื้องที่ชำรุดออกมา

2. วิธีการแกะกระเบื้องเก่าๆ

วางสิ่วลงบนกึ่งกลางของแผ่นกระเบื้องแล้วใช้ค้อนทุบหัวสิ่วเพื่อแซะกระเบื้องและรอยปูนเก่าๆที่ติดอยู่กับแผ่นกระเบื้องออกมาจนถึงชั้นพื้นจริง

3. เตรียมปูนสำหรับปูแผ่นกระเบื้องใหม่

เตรียมปูนที่จะใช้ปูกระเบื้องโดยผสมปูนและทรายในอัตรา 1 ต่อ 2 ส่วน โดยควรผสมปูนแค่พอประมาณเพื่อไม่ให้ปูนแข็งตัวเร็วเกินไป และไม่จำเป็นต้องผสมเยอะจนเกินไปเมื่อตัวกระเบื้องที่ใช้ปูไม่มากนัก

4. โบกปูนให้พร้อมสำหรับการวางพื้นกระเบื้อง

หลังจากผสมปูนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้โบกปูนลงไปในบริเวณที่ต้องการปูกระเบื้องใหม่โดยไม่ควรโบกปูนบางหรือหนาเกินไป เมื่อโบกปูนเสร็จแล้วให้กดแผ่นกระเบื้องใหม่ลงไปเว้นขอบแต่ละด้านประมาณ 2-3 มิลลิเมตร แล้วใช้เกียงตอกลงไปบนแผ่นกระเบื้องเบาๆ เพื่อช่วยให้แผ่นกระเบื้องติดแน่นหนามากขึ้น แล้วทิ้งไว้จนกว่าปูนจะแห้งสนิท หลังจากนั้นให้นำฟองน้ำสะอาดมาทำความสะอาดพื้นกระเบื้องก็เป็นอันเสร็จที่เรียบร้อย


กระเบื้องปูพื้นในห้องน้ำหลุดร่อน แก้ไขอย่างไร

ปัญหากระเบื้องปูพื้นห้องน้ำที่หลุดล่อนเกิดจากกระเบื้องโดนแรงอัดหรือแรงกระแทกแตก หรือมาจากความชื้นของคอนกรีตที่อยู่ใต้แผ่นกระเบื้อง และปัญหาคราบสกปรกที่สะสมกันมาเป็นเวลานานจนทำให้ยาแนวกระเบื้องหลุดลอกออก โดยคราบสกปรกที่ฝังตามขอบกระเบื้องจะเกิดเป็นเชื้อรา โดยการใช้น้ำยากันซึมพื้นคอนกรีตก่อนการปูกระเบื้องจะช่วยป้องกันความชื้นไม่ให้ขึ้นมาบนพื้นคอนกรีต และหากไม่ได้ทำการป้องกันไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ยังมีวิธีซ่อมแซมพื้นกระเบื้องห้องน้ำหลุดร่อนได้อีกหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งในบางกรณีก็สามารถซื้อพื้นกระเบื้องแบบใหม่ที่มีขนาดบางกว่ากระเบื้องปกติ โดยสามารถภูทับแผ่นกระเบื้องเดิมได้ในทันที

และหากปัญหากระเบื้องแตกร้าวไม่เกี่ยวกับการรั่วซึมหรือความชื้น สามารถปูกระเบื้องทับเดิมได้โดยการทำความสะอาดพื้นให้สะอาดและกวาดน้ำออก จากนั้นเลากระเบื้องที่แตกออกแล้วใช้กาวซีเมนต์ชนิดที่ระบุว่าใช้ปูทับกระเบื้องเดิม ปูทับพื้นเดิมลงไปได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีลงยาแนวให้ครบทั้งสี่ด้านเพื่อกระเบื้องใหม่ในบ้านที่ไม่สามารถหากระเบื้องลายเดิมได้ สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา แต่จะสิ้นเปลืองเสียหน่อย และไม่ส่งเสียงดังไปรบกวนคนข้างห้องหรือคนที่อยู่ชั้นล่างได้ ในกรณีที่เป็นสถานที่ผู้อยู่อาศัยส่วนรวม


สำหรับการเลือกคืนกระเบื้องให้เหมาะกับตัวบ้านก็ถือว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นกันเพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายภาคหน้า โดยสามารถสังเกตได้จากสภาพอากาศโดยรอบของตัวบ้านว่าส่วนมากแล้วสภาพอากาศเป็นอย่างไร และสำหรับการเลือกพื้นกระเบื้องที่เหมาะสมกับบ้านนั้นก็จะช่วยลดปัญหาอื่นๆไปได้อีกมากมาย รวมถึงการเลือกใช้พื้นกระเบื้องให้เหมาะกับห้องน้ำก็เป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งสำหรับพื้นกระเบื้องบางชนิดหากถูกน้ำกัดกร่อนอยู่เป็นประจำก็จะทำให้มีรอยหลุดลอก หรืออาจจะเป็นรอยด่าง โดยจะเห็นได้ชัดว่าคุณสมบัติของกระเบื้องชนิดนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในห้องน้ำ หรือควรจะมีการตรงสีเคลือบกระเบื้องตั้งแต่ที่อยู่ในช่วงปูกระเบื้องของพื้นที่ห้องน้ำเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้ก็ได้ด้วยเช่นกัน

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save