บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ July 27, 2023

หน้าต่าง รั่วแก้ได้ง่าย ๆ คุณก็ซ่อมได้ด้วยตนเอง

หน้าต่าง รั่วซึมเป็นปัญหาที่พอเข้าหน้าฝนทีไหร่หลายบ้านคงจะเริ่มหวั่นวิตกว่าจะมีรอยรั่วตรงไหนบ้างหรือเปล่า เพราะรอยน้ำที่รั่วซึมมาจากตรงหน้าต่าง ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับส่วนอื่นๆของบ้านไม่ว่าจะเป็น ผนัง พื้น และเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณหน้าต่าง ดังนั้นเราจึงต้องรู้ก่อนว่าจะสำรวจหารอยรั่วได้อย่างไร และจะหาวิธีแก้อย่างไรคะ


วิธีสังเกตรอยรั่วที่หน้าต่าง

 

วิธีสังเกตรอยรั่วที่หน้าต่าง

 

1.เริ่มจากกระจกนอกจากที่เราจะมองหารอยแตกจากทั้งภายนอกและภายในแล้ว ควรทำการตรวจสอบการติดตั้งกระจกด้วย ส่วนวิธีการก็แค่นำนิ้วกดลงไปบนกระจกแล้วทดสอบดันขึ้นดันลง ถ้ากระจกมีการขยับตามแรงดันสันนิษฐานได้เลยว่ากระจกติดตั้งไม่แน่น

2.ลองดูที่แสงลอดเข้ามาด้วยการปิดหน้าต่างทุกบานในบ้านให้สนิท ถ้ามีผ้าม่านก็ให้นำออกไปก่อน จากนั้นก็ลองสังเกตดูว่ามีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้หรือเปล่า ถ้ายังเห็นแสงแสดงว่าหน้าต่างของคุณเกิดรอยรั่วเสียแล้ว

3.สังเกตดูจากสีของขอบหน้าต่างรวมทั้งผนังรอบๆถ้าเจอคราบสีเหลืองๆเป็นเหมือนรอยน้ำแสดงว่าหน้าต่างบริเวณนั้นเกิดรอยรั่วแน่นอน

4.หลังฝนหยุดตกแล้วให้ลองสำรวจดูว่าบริเวณหน้าต่างนั้นแห้งสนิททั้งหมดหรือเปล่า ถ้าพบว่าจุดไหนที่ยังไม่แห้งยังคงพบร่องรอยความชื้นอยู่แสดงว่าหน้าต่างมีรอยรั่วอย่างแน่นอน

5.ตรวจสอบจากวงกบของหน้าต่าง ถ้าวงกบหน้าต่างมีลักษณะบวม บิดเบี้ยว หรือทดสอบปิดหน้าต่างเข้ามาพบว่าหน้าต่างปิดได้ไม่สนิท แสดงว่าความชื้นหรือน้ำได้เข้ามาสู่บริเวณวงกบหน้าต่างตามรอยรั่วที่เกิดขึ้น

6.บางครั้งน้ำที่รั่วเข้ามาทางหน้าต่างก็ไม่ได้เกิดจากการรั่วโดยตรง เพราะบางทีก็เกิดได้จากแผ่นยางที่ติดอยู่ตามขอบหน้าต่างที่เสื่อมสภาพ หลุดลุ่ย ด้วยอายุการใช้งานที่ผ่านมานานหรือว่าการติดตั้งไม่ดีตั้งแต่ตอนแรกก็เลยทำให้น้ำรั่วเข้ามาได้


วิธีการซ่อมรอยรั่วหน้าต่าง

 

วิธีซ่อมรอยรั่วหน้าต่าง

 

1.เปลี่ยนกระจกใหม่

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำซึมเข้าบ้านได้มาจากกระจกมีรอยแตกหรือตอนติดตั้งไม่แน่นน้ำเลยสามารถแทรกซึมเข้ามาได้ ถ้าเป็นลักษณะนี้ควรใช้วิธีซ่อมแซมบ้านด้วยการเปลี่ยนกระจกแผ่นที่ชำรุดออก ซึ่งวิธีนี้ถ้าเราไม่เชี่ยวชาญก็ควรเรียกช่างให้เข้ามาซ่อมแทน เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุในช่วงระหว่างซ่อมได้


 

ใช้วัสดุอุดกันน้ำ

 

2.ใช้วัสดุอุดกันน้ำ

ถ้าเราพบรอยรั่วที่มีขนาดเล็กๆไม่สร้างความเสียหายมากมายนัก ก็ให้ใช้วัสดุอุดรอยรั่วมาอุดตามรอยที่แตกหรือรูเล็กๆน้อยๆที่บริเวณขอบหน้าต่างด้วยก็ได้


 

เปลี่ยนแผ่นยางกันน้ำที่ขอบหน้าต่าง

 

3.เปลี่ยนแผ่นยางกันน้ำที่ขอบหน้าต่าง

แผ่นยางมีหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้น้ำและความชื้นแทรกซึมเข้ามาสู่ตัวบ้านได้จึงมักจะนำมาติดที่ขอบหน้าต่าง แต่เมื่อผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานหลายปีวัสดุเหล่านี้ก็จะมีการเสื่อมสภาพลง ไม่ติดแน่นเหมือนตอนแรก วิธีการซ่อมก็คือเปลี่ยนแผ่นยางด้วยการลอกแผ่นยางอันเก่าออกทั้งหมด แล้วนำแผ่นใหม่เข้ามาติดตั้งแทน และอย่าลืมว่าต้องใช้แผ่นยางที่มีขนาดความหนาเท่าเดิมด้วย ถ้ากลัวว่าจะจำขนาดไม่ได้ก็ให้ตัดเอาแผ่นยางอันเก่าไปเปรียบเทียบให้กับช่างตามร้านขายวัสดุก่อสร้างเลือกก็ได้คะ


 

ซ่อมตามขอบหน้าต่าง

 

4.ซ่อมตามขอบหน้าต่าง

วิธีนี้จะใช้ได้ดีกับรอยรั่วที่เป็นปัญหาทั้งด้านในและด้านนอกขอบหน้าต่าง โดยส่วนมากวัสดุที่นิยมในการใช้ซ่อมแซมจะเป็น สเปรย์โฟมโพลียูรีเทนอเนกประสงค์หรือกาวโฟมโพรียูรีเทนที่เป็นแบบกระป๋อง ใช้เพื่อนำไปอุดร่อง ช่องโหว่ รอยรั่ว อุดช่องว่างกันเสียง กันกระแทก เวลาที่ฉีดเนื้อโฟมจะพองฟูขึ้นออกเป็น 3 เท่า ใช้เวลาเซ็ตตัวอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนวิธีซ่อมแซมก็ควรเริ่มจาก

  • นำชะแลงและค้อนตีตะปูค่อยๆแงะขอบหน้าต่างออก โดยเลือกว่าจะแงะที่ด้านนอกหรือด้านในก่อน ห้ามแงะทั้งสองด้านออกมาพร้อมกันเด็ดขาด
  • หลังจากนั้นใช้สเปรย์โฟมโพลียูรีเทนอเนกประสงค์ หรือ กาวโฟมโพรียูรีเทนฉีดเข้าไปอุดตามรอยรั่วหรือรอยแตกหักที่อยู่รอบๆบริเวณขอบหน้าต่าง ทิ้งไว้ให้แห้ง ในขั้นตอนนี้ระหว่างที่ดำเนินการก็ควรสวมถุงมือช่วงระหว่างทำไปด้วย เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่พวกโฟมโดนมือจะล้างออกได้ยากมาก
  • เมื่อเราฉีดอุดรอยรั่วไปสักพักจนกาวโฟมเริ่มแห้งแล้วก็ให้ใช้มีดตัดกาวโฟมที่เป็นส่วนเกินออกทิ้งเสีย เพื่อที่ร่องรอยที่เราทำการอุดไว้จะได้สวยงามไม่ดูเป็นก้อน
  • มาถึงขั้นตอนสุดท้ายก็คือประกบขอบหน้าต่างให้เข้าไปตามเดิม

การซ่อมรอยรั่วที่เราแนะนำมานี้เป็นเพียงแค่วิธีการคร่าวๆแต่ก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีได้ว่าจะไม่มีรอยรั่วเกิดขึ้นได้อีกในครั้งต่อๆไป เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าวัสดุเหล่านี้เมื่อใช้ไปนานๆก็จะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาเมื่อโดนแดด โดนฝนอยู่เป็นประจำ ฉะนั้นเจ้าของบ้านควรที่จะต้องหมั่นตรวจสอบอยู่สม่ำเสมอ ถ้าพบเจอว่ามีรอยรั่วหรือวัสดุเสื่อมสภาพก็ควรรีบดำเนินการเปลี่ยนและซ่อมแซมภายในทันที เพื่อป้องกันให้เกิดผลเสียกับภาพรวมทั้งหมดของบ้านค่ะ


วิธีซ่อมแซมบานหน้าต่างไม้ เมื่อเกิดปัญหามีรอยแตกร้าว

บานหน้าต่างไม้มีปัญหาเรื่องรอยแตกร้าวเนื่องจากการหดตัวหรือยืดขยายตามสภาพอากาศ การแก้ไขปัญหารอยแตกของไม้สามารถทำได้เองโดยไม่ต้องเรียกช่างมาซ่อม สำหรับวิธีอุดรอยร้าวบนบานบหน้าต่างไม้ถือว่ามีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน และต้องใช้ความชำนาญ และหากไม่มีการไม่แก้ไขปัญหารอยแตกอาจบ้าน และสร้างปัญหาใหญ่ให้ในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน

  • ตรวจสอบสภาพความเสียหาย : การตรวจสอบสภาพความเสียหายและประเมินความเสียหายเพื่อตัดสินใจว่าจะรับมือด้วยตนเองหรือไม่ หากต้องถอดหน้าต่างออก เราควรเปิดบานหน้าต่างออกมาให้อยู่ในลักษณะทำมุมกับผนังได้ 90 องศา แล้วขันนอตออก จากนั้นจึงจับบานหน้าต่างให้ยกขึ้นเพื่อถอดข้อต่อของหน้าต่างให้ออกจากกัน
  • เริ่มทำความสะอาดบานหน้าต่างหรือประตู : เมื่อถอดบานหน้าต่างหรือประตูออกมาแล้วให้ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำบีบหมาดๆ เช็ดบานหน้าต่างเพื่อขจัดคราบฝุ่นและสิ่งสกปรก จากนั้นใช้กระดาษทรายหยาบหรือแปรงขัดลวดทองเหลือง ขัดแต่งบริเวณรอบๆรอยแตกหรือบนตำแหน่งที่พบความผิดปกติ เพื่อให้บานหน้าต่างเรียบร้อยก่อน
  • เตรียมพร้อมสำหรับการอุกรอยร้าว : เมื่อต้องการอุดรอยแตกที่มีขนาดใหญ่และไม่สามารถหาวัสดุอื่นมาใช้ได้ สามารถใช้เศษไม้ที่ไม่มีความชื้นหรือเชื้อราปะปนมาตัดแต่งหรือดัดแปลงให้เข้ากับรอยแตก แล้วใช้ส่วนผสมเช่น น้ำมันยางผสมผสานกับชัน ดินสอพอง หรือผงขี้เลื่อยร่อนผสมกับกาวลาเท็กซ์ ดินสอพอง หรือน้ำมันวานิสหรือยูริเทน เพื่ออุดรอยแตกให้แข็งแรงทนทาน และป้องกันน้ำได้อีกด้วย

การบำรุงรักษาบ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานเสมอจะช่วยลดความเสียหายจากปัญหาการผุกร่อนของบ้านหน้าต่างและประตู และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านบ่อยๆ โดยควรตรวจสอบและแก้ไขตำหนิหรือชำรุดที่พบเจอโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่โตขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวัสดุใหม่ทั้งหมด


วิธีดูแลรักษาประตูหน้าต่างไม้ ไม่ให้ผุพัง

ประตูหน้าต่างไม้ในบ้านที่อยู่อาศัยมีความเสื่อมโทรมได้ง่ายเมื่อถูกแดด ฝน ความชื้น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยรั่วตามขอบหน้าต่าง การซ่อมแซมสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้น้ำยาเคลือบรักษาไม้, ทาสีทับ, ยาแนวอุดรอยรั่ว แต่หากเป็นกรณีที่ผุพังเสียหายจนเกินกว่าจะเยียวยา การเปลี่ยนหน้าต่างใหม่อาจเป็นทางเลือกที่จะช่วยได้ดีที่สุด

  • ถอดบานประตูออกจากวงกบ : เพื่อถอดบานประตูออกจากวงกบได้อย่างปลอดภัย ควรใช้สว่านไขสกรูและมีผู้ช่วยพยุงบานประตูไม่ให้ล้มในระหว่างการทำงาน โดยเริ่มจากบานพับที่อยู่ตรงกลางก่อน
  • ทำสีบานประตูไม้ : สำหรับการทำสีบานประตูไม้ที่ต้องการเน้นโชว์ลายไม้ ให้ใช้กระดาษทรายขัดเคลือบไม้เดิมออก โดยควรใช้กระดาษทราบประมาณเบอร์ 2-3 สำหรับประตูไม้เนื้ออ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ทิ้งริ้วรอยที่ผิวไม้มาก และต้องขัดคราบรอยราดำออกก่อน
  • ตรวจสอบประตู : เมื่อตรวจสอบประตูแล้วพบรอยแตกร้าว ให้ใช้ดินสอพองผสมน้ำเพื่ออุดรอยแตก แล้วทิ้งไว้จนแห้ง
  • ทำความสะอาดผิวไม้ : ทำความสะอาดผิวไม้โดยการถูด้วยเชื้อกำจัดฝุ่นผง แล้วทิ้งไว้ให้แห้งสนิท และควรใช้กระดาษทรายเบอร์ 0 เพื่อขัดเนื้อดินสอให้ละเอียดที่สุดและเอาส่วนเกินออกไปโดยช้าๆ
  • ใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ : การป้องกันผิวอุปกรณ์เมื่อใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้หรือสีทาทับหน้า ควรใช้เทปกาวติดที่ลูกบิด มือจับ หรือกลอนเสียก่อน เพื่อปกป้องผิว จากนั้นทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ทั่วทุกด้าน 2 ครั้ง และทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมป้องกันเชื้อราอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทาซ้ำ แต่หากไม่มี ควรทาน้ำยาป้องกันเชื้อรา (Micro Kill) ร่วมด้วย
  • ทาluบนวงกบ 2 เที่ยว : ใช้สีย้อมไม้ทาบนวงกบ 2 เที่ยว แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ดึงเทปกาวออก แล้วติดตั้งประตูเข้ากับวงกบเดิม ซึ่งการใช้สีย้อมไม้ทาบนวงกบ 2 เที่ยวนั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกัน และเป็นวิธีดูแลประตูหน้าต่างไม้ ไม่ให้ผุพังได้เป็นอย่างดี รวมถึงสีบางชนิดก็ยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศสูง

เมื่อวางแผนจะเปลี่ยนประตูหน้าต่างไม้ ควรเลือกทีมช่างที่มีความชำนาญในการติดตั้งและรื้อถอน โดยมีความประณีตในการวัด ตัด และประกอบให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผนังปูน และประหยัดเวลาและเงินในการทำงาน ส่วนการซ่อมสีบานประตูไม้ทั้งบานประตูไม้อัดหรือไม้จริงสามารถทำเองได้โดยมีขั้นตอนในการซ่อมแซมสีบานประตูไม้ และเจ้าของบ้านควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ก่อนการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนประตูหน้าต่างไม้ทั้งบานหรือซ่อมแซม เพื่อประหยัดเวลาและเงินในขั้นตอนดำเนินการต่างๆและลดความผิดหวังในภายหลัง


สาเหตุของการรั่วซึมจากหน้าต่างนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผลด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุสำหรับทำหน้าต่าง ซึ่งปัญหาน้ำรั่วซึมสามารถพบได้กับหน้าต่างแทบจะทุกชนิด ขึ้นอยู่กับการประกอบของช่างในบางวัสดุหรือ ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในแต่ละบ้าน สำหรับการสังเกตน้ำรั่วซึมที่หน้าต่างนั้นสามารถดูได้จากด้านนอกของตัวบ้าน หรืออาจจะพบเจอได้เลยในด้านในของตัวบ้านหากไม่มีการติดวอลเปเปอร์ โดยจะมีคราบน้ำทิ้งไว้ที่ใต้หน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างบานกระจก หรือหน้าต่างชนิดอื่นๆทั่วไป หรือหากเป็นบานหน้าต่างไม้ก็อาจเกิดปัญหาอื่นขึ้นได้เช่นไม้บวม หรืออาจจะทำให้ไม้ผุ หากไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

Con Mueangsak

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save